tripitaka-mbu / 39 /390290.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
39,0290,001,ทานนี้แล จงมีแก่ญาติทั้งหลาย กรรมที่คนหนึ่งทำแล้วย่อมไม่ให้ผลแก่อีกคน
39,0290,002,หนึ่ง แต่วัตถุนั้นที่ญาติให้อุทิศอย่างนั้นอย่างเดียว ย่อมเป็นปัจจัยแก่กุศล
39,0290,003,กรรมของญาติทั้งหลาย ฉะนั้นเมื่อทรงแสดงประการที่กุศลกรรม อันให้เกิดผล
39,0290,004,ในทันที่ เพราะวัตถุนั้นนั่นแลอีก จึงตรัสกึ่งหลังแห่งคาถาที่ ๔ ว่า <B>เต จ
39,0290,005,ตตฺถ</B> และกิ่งต้นแห่งคาถาที่ ๕ ว่า <B>ปหูเต อนฺนปานมฺหิ.</B>
39,0290,006,กึ่งต้นและกึ่งหลังแห่งคาถาเหล่านั้น มีความว่า ท่านอธิบายไว้ว่าเปรต
39,0290,007,ที่เป็นญาติเหล่านั้น มาโดยรอบ มาร่วมกัน ประชุมอยู่ในที่แห่งเดียวกัน ในที่ ๆ
39,0290,008,ญาติให้ทานนั้น. ท่านอธิบายไว้ว่า เปรตเหล่านั้นมาโดยชอบ มาร่วมกัน
39,0290,009,มาพร้อมกันเพื่อความต้องการอย่างนี้ว่า ญาติทั้งหลายของเราจักอุทิศทานนี้
39,0290,010,เพื่อประโยชน์แก่เราทั้งหลาย. บทว่า <B>ปหูเต อนฺนปานมฺหิ</B> ความว่า ใน
39,0290,011,ข้าวน้ำที่ญาติให้อุทิศเพื่อตนมีมากนั้น. บทว่า <B>สกฺกจฺจํ อนุโมทเร</B> ความว่า
39,0290,012,เปรตเหล่านั้นเชื่อมั่น ผลกรรมไม่ละความยำเกรง มีจิตไม่กวัดแกว่ง ย่อมยินดี
39,0290,013,อนุโมทนา เกิดปีติปราโมชว่า ทานนี้จงมีผลเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุข
39,0290,014,แก่เราทั้งหลาย.
39,0290,015,<H2>พรรณนาตอนปลายของคาถาที่ ๕</H2>
39,0290,016,<H2>สัมพันธ์กับตอนต้นของคาถาที่ ๖</H2>
39,0290,017,พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อทรงแสดงประการที่กุศลกรรม ให้ผลเกิดใน
39,0290,018,ทันที่ แก่ญาติทั้งหลายที่เข้าถึงปิตติวิสัย อย่างนี้จึงตรัสว่า
39,0290,019,<B>พวกเปรตที่เป็นญาติเหล่านั้นพากันมาในที่นั้น
39,0290,020,ประชุมพร้อมแล้ว ต่างก็อนุโมทนาโดยเคารพในข้าว
39,0290,021,น้ำเป็นอันมาก.</B>