Book,Page,LineNumber,Text 39,0263,001,อาบัติเห็นปานนั้น การออกจากอาบัติเห็นปานนั้น ย่อม 39,0263,002,ปรากฏ ที่นั้นแหละพระโสดาบันย่อมรีบแสดง เปิด 39,0263,003,เผย ทำให้ง่าย ในพระศาสดาที่รอในเพื่อนสพรหมจารี 39,0263,004,ผู้เป็นวิญญูชน ครั้นแล้วก็สำรวมระวังต่อไป นี้เป็น 39,0263,005,ธรรมดาของบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ก็ฉันนั้น 39,0263,006,เหมือนกัน. 39,0263,007,พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นตรัสคุณของสังฆรัตนะด้วยคุณของพระโสดา- 39,0263,008,บันแม้อยู่ด้วยความประมาท แต่ก็ถึงพร้อมด้วยทัสสนะไม่มีการปกปิดบาปกรรม 39,0263,009,ที่ทำแล้วอย่างนี้แล้ว บัดนี้ ทรงอาศัยคุณนั้นนั่นแล จึงทรงประกอบสัจจวจนะ 39,0263,010,ว่า อิทมฺปิ สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ แม้อันนี้ ก็เป็นรัตนะอันประณีตใน 39,0263,011,พระสงฆ์ ความของสัจจวจนะนั้น พึงทราบตามนัยที่กล่าวมาก่อนแล้วทั้งนั้น. 39,0263,012,พวกอมนุษย์ในแสนโกฏิจักรวาล ก็พากันยอมรับพุทธอาชญาแห่งพระคาถานี้แล. 39,0263,013,

พรรณนาคาถาว่า วนปฺปคุมฺเพ

39,0263,014,พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นตรัสสัจจวจนะ มีสังฆรัตนะเป็นที่ตั้งโดย 39,0263,015,ประการแห่งคุณนั้น ๆ ของบุคคลทั้งหลาย ที่เนื่องอยู่ในพระสงฆ์อย่างนี้แล้ว 39,0263,016,บัดนี้ ทรงอาศัยพระปริยัติธรรม ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อทรงแสดงคุณ 39,0263,017,พระรัตนตรัย ก็ทรงแสดงอย่างสังเขปในที่นี้ และทรงแสดงไว้พิศดารในที่อื่น 39,0263,018,จึงทรงเริ่มตรัสสัจจวจนะ มีพระพุทธรัตนะเป็นที่ตั้งอีกว่า วนปฺปคุมฺเพ ยถา 39,0263,019,ผุสฺสิตคฺเค ในสัจจวจนะนั้น กลุ่มต้นไม้ที่กำหนดด้วยถิ่นที่อยู่ประจำอันใกล้ 39,0263,020,ชื่อว่า วนะ ป่า. พุ่มไม้ที่งอกงามด้วยรากแก่นกระพี้เปลือกกิ่งและใบ ชื่อว่า 39,0263,021,ปคุมพะ. พุ่มไม้ที่งอกงามของป่าหรือในป่า ชื่อว่า วนปฺปคุมฺโพ. พุ่มไม้ 39,0263,022,ที่งอกงามในป่านี้นั้น ท่านเรียกว่า วนปฺปคุมฺเพ เมื่อเป็นดังนั้น ก็เรียก