Book,Page,LineNumber,Text
39,0212,001,
พรรณนาคาถาว่า เอตาทิสานิ
39,0212,002,พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นตรัส มหามงคล ๓๘ ประการ ด้วยคาถา
39,0212,003,๑๐ คาถา มีว่า อเสวนา จ พาลานํ การไม่คบพาลเป็นอาทิ อย่างนี้แล้ว
39,0212,004,บัดนี้ เมื่อจะทรงชมเชยมงคลที่พระองค์ตรัสเหล่านั้นแล จึงได้ตรัสคาถาสุดท้าย
39,0212,005,ว่า เอตาทิสานิ กตฺวาน เป็นต้น.
39,0212,006,พรรณนาความแห่งคาถาสุดท้ายนั้นดังนี้ บทว่า เอตาทิสานิ แปลว่า
39,0212,007,เช่นนี้ เหล่านั้น คือมีการไม่คบพาล เป็นต้น มีประการที่เรากล่าวมาแล้ว.
39,0212,008,บทว่า กตฺวาน แปลว่า กระทำ. ความจริงคำนี้ไม่นอกเหนือไปจากความว่า
39,0212,009,กตฺวาน กติวา กริตฺวา [ซึ่งแปลว่าการทำเหมือนกัน]. บทว่า สพฺพตฺ-
39,0212,010,ถมปราชิตา ความว่า สัตว์ทั้งหลาย กระทำมงคลเช่นนี้เหล่านั้น อันข้าศึก
39,0212,011,๔ ประเภท คือ ขันธมาร กิเลสมาร อภิสังขารมารและเทวปุตตมาร แม้แต่
39,0212,012,ประเภทเดียวทำให้พ่ายแพ้ไม่ได้ ในที่ทั้งปวง ท่านอธิบายว่า ยังมารทั้ง ๔
39,0212,013,นั้นให้พ่ายแพ้ด้วยตนเอง. ก็ ม อักษรในคำว่า สพฺพตฺถมปราชิตา นี้ พึง
39,0212,014,ทราบว่า เพียงทำการต่อบท.
39,0212,015,บทว่า สพฺพตฺถ โสตฺถึ คจฺฉนฺติ ความว่า สัตว์ทั้งหลายกระทำ
39,0212,016,มงคลเช่นที่กล่าวมานี้ เป็นผู้อันมารทั้ง ๔ ทำให้พ่ายแพ้ไม่ได้แล้ว ย่อมถึง
39,0212,017,ความสวัสดีในที่ทั้งปวง คือ ในโลกนี้ และโลกหน้า และที่ยืนและที่เดินเป็นต้น
39,0212,018,อาสวะเหล่าใดที่ทำความคับแค้นและเร่าร้อน พึงเกิดขึ้นเพราะการคบพาลเป็น
39,0212,019,ต้น เหตุไม่มีอาสวะเหล่านั้น จึงถึงความสวัสดี ท่านอธิบายว่า เป็นผู้อัน
39,0212,020,อุปัทวะไม่ขัดขวาง อันอุปสรรคไม่ขัดข้อง เกษมปลอดโปร่ง ไม่มีภัยเฉพาะ
39,0212,021,หน้าไป. ก็นิคคหิต ในคำว่า สพฺพตฺ โสตฺถึ คจฺฉนฺติ นี้พึงทราบว่า
39,0212,022,ตรัสเพื่อสะดวกแก่การผูกคาถา.
39,0212,023,พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงจบเทศนาด้วยบทแห่งคาถาว่า ตํ เตสํ
39,0212,024,มงฺคลฺมุตฺตมํ. ทรงจบอย่างไร. ทรงจบว่า ดูก่อนเทพบุตร เพราะเหตุที่ชน