Book,Page,LineNumber,Text
39,0139,001,มีความว่า สั่งสม ได้ในประโยคเป็นต้นว่า ตุมฺเหหิ ปฺญฺํ
39,0139,002,ปสุตํ อนปฺปกํ ท่านทั้งหลายสั่งสมบุญเป็นอันมาก.
39,0139,003,มีความว่า ขวนขวาย ได้ในประโยคเป็นต้นว่า เย ฌานปฺปสุตา
39,0139,004,ธีรา ปราชญ์เหล่าใดขวนขวายในฌาน.
39,0139,005,มีความว่า เสียงที่รู้ทางโสตะ ได้ในประโยคเป็นต้นว่า ทิฏฺํ
39,0139,006,สุตํ มุตํ รูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน อารมณ์ที่ทราบ.
39,0139,007,มีความว่า รู้ตามแนวโสตทวาร ได้ในประโยคเป็นต้นว่า สุตธโร
39,0139,008,สุตสนฺนิจโย ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ.
39,0139,009,แต่ในที่นี้ ศัพท์ว่า สุตะ มีความว่า เข้าไปทรงไว้หรือการทรงจำ
39,0139,010,ไว้ด้วยวิถีวิญญาณ ซึ่งมีโสตวิญญาณเป็นหัวหน้า. ในคำนั้น เมื่อใด เมศัพท์
39,0139,011,มีความว่า มยา อันข้าพเจ้า เมื่อนั้นก็ประกอบความว่า อันข้าพเจ้าฟังมา
39,0139,012,แล้ว คือทรงจำไว้แล้วด้วยวิถีวิญญาณ อันมีโสตวิญญาณเป็นหัวหน้า อย่างนี้.
39,0139,013,เมื่อใด เมศัพท์ มีความว่า มม ของข้าพเจ้า เมื่อนั้น ก็ประกอบความว่าการ
39,0139,014,ฟังของข้าพเจ้าคือการทรงจำไว้ ด้วยวิถีวิญญาณอันมีโสตวิญญาณเป็นหัวหน้า.
39,0139,015,บรรดาบททั้ง ๓ เหล่านั้น ดังพรรณนามานี้ บทว่า เอวํ เป็นบท
39,0139,016,ชี้ถึงกิจคือหน้าที่ของโสตวิญญาณ. บทว่า มยา เป็นบทชี้ถึงบุคคลผู้ประกอบ
39,0139,017,ด้วยโสตวิญญาณที่กล่าวแล้ว. บทว่า สุตํ เป็นบทชี้ถึงการถือเอาไม่ขาดไม่
39,0139,018,เกินและไม่วิปริต เพราะปฏิเสธภาวะคือการไม่ได้ฟัง.
39,0139,019,นัยหนึ่ง บทว่า เอวํ เป็นบทแสดงถึงภาวะที่มีจิตคิดจะฟังเป็นต้น
39,0139,020,เป็นไปในอารมณ์ โดยประการต่าง ๆ. บ ทว่า เม เป็นบทแสดงถึงตัว. บทว่า
39,0139,021,สุตํ เป็นบทแสดงถึงธรรม.