Book,Page,LineNumber,Text
39,0121,001,"เข้าใจว่า"" ปาพจน์ คือ ธรรมวินัย มีศาสดาล่วงไปแล้ว ได้สมัครพรรคพวก "
39,0121,002,ก็จะพากันย่ำยีพระสัทธรรมให้อันตรธานไปไม่นานเลย ข้อนี้ย่อมเป็นไปได้.
39,0121,003,ตราบใด ธรรมวินัยยังดำรงอยู่ ตราบนั้น ปาพจน์ คือ ธรรมวินัยก็หาชื่อว่า
39,0121,004,มีศาสดาล่วงไปแล้วไม่ สมจริง ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส๑ไว้ว่า
39,0121,005,ดูก่อนอานนท์ ธรรมเเละวินัยอันใด อันเราตถา-
39,0121,006,คตแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมและ
39,0121,007,วินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย เมื่อเรา
39,0121,008,ล่วงลับไป ดังนี้.
39,0121,009,อย่ากระนั้นเลย จำเราจะช่วยกันสังคายนาธรรมและวินัย โดยวิธีที่พระศาสนา
39,0121,010,นี้จะพึงดำรงอยู่ยั่งยืนยาวนาน.
39,0121,011,อนึ่งเล่า เรากัสสปะอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุเคราะห์ด้วยสาธารณ-
39,0121,012,บริโภคในจีวร ตรัสว่า
39,0121,013,ดูก่อนกัสสปะเธอจักครองผ้าป่านบังสุกุลที่ใช้แล้ว
39,0121,014,ของเราไหวหรือ และทรงอนุเคราะห์ด้วยทรงสถาปนา
39,0121,015,เราไว้เสมอ ๆ กับพระองค์ในอุตตริมนุสสธรรม ธรรม
39,0121,016,อัน ยิ่งยวดของมนุษย์ ต่างโดยอนุปุพพวิหาร ๙ และ
39,0121,017,อภิญญา ๖ โดยนัยเป็นต้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
39,0121,018,หลาย เราตถาคตต้องการสงัดจากกามทั้งหลาย สงัด
39,0121,019,จากอกุศลธรรมทั้งหลาย เข้าถึงปฐมฌานอยู่เพียงใด
39,0121,020,แม้กัสสปะก็ต้องการสงัดจากกามทั้งหลาย สงัดจาก
39,0121,021,อกุศลธรรมทั้งหลาย ฯลฯ เข้าถึงปฐมฌานอยู่เพียงนั้น.
39,0121,022,ดังนี้.