Book,Page,LineNumber,Text 39,0106,001,อีกนัยหนึ่ง ชื่อว่าอริยสัจ แม้เพราะทำให้สำเร็จความเป็นอริยะ 39,0106,002,เพราะอริยสัจเหล่านั้น ทรงรู้ยิ่งด้วยพระองค์เองแล้ว เหมือนอย่างที่ตรัสไว้ว่า 39,0106,003,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอริยสัจ ๔ เหล่านี้แล 39,0106,004,ตถาคตตรัสรู้ยิ่งเองตามเป็นจริง ตถาคตจึงถูกเรียกว่า 39,0106,005,พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า. 39,0106,006,ความแห่งบทของอริยสัจเหล่านั้นมีดังนี้ ความตัดขาดภวตัณหา ย่อม 39,0106,007,มีได้ เพราะความตรัสรู้ตามและแทงตลอดอริยสัจเหล่านั้น เหลือนอย่างที่ตรัส 39,0106,008,ไว้ว่า 39,0106,009,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทุกขอริยสัจนี้นั้น อันเรา 39,0106,010,ตถาคตตรัสรู้แล้ว แทงตลอดแล้ว ฯลฯ ทุกขนิโรธ 39,0106,011,คามินีปฏิปทาอริยสัจ อันเราตถาคตตรัสรู้แล้ว แทง 39,0106,012,ตลอดแล้ว ภวตัณหาเราตถาคตก็ถอนได้แล้ว ตัณหา 39,0106,013,ที่นำไปในภพ ก็สิ้นแล้ว บัดนี้ การเกิดอีกไม่มีกันละ 39,0106,014,ดังนี้. 39,0106,015,

พรรณนาปัญหาว่า อะไรเอ่ย ชื่อว่า ๕

39,0106,016,พระศาสดา มีจิตอันพระเถระทำให้ทรงยินดีด้วยการพยากรณ์ปัญหา 39,0106,017,แม้นี้แล้ว จึงตรัสถามปัญหายิ่งขึ้นไปตามนัยก่อน ๆ ว่า อะไรเอ่ย ชื่อว่า ๕. 39,0106,018,พระเถระกล่าวซ้ำว่า ปญฺจ ๕ จึงทูลตอบว่า อุปาทานขันธ์ ในคำเหล่านั้น 39,0106,019,คำว่า ปญฺจ ๕ เป็นการกำหนดจำนวน. ขันธ์ทั้งหลาย ที่ถูกอุปาทานให้ 39,0106,020,เกิดมา หรือที่ทำอุปาทานให้เกิด ชื่อว่าอุปาทานขันธ์. รูป เวทนา สัญญา 39,0106,021,สังขาร และวิญญาณ อย่างใดอย่างหนึ่ง มีอาสวะ อันบุคคลพึงยึดถือ คำนี้ 39,0106,022,เป็นชื่อของอุปาทานขันธ์เหล่านั้น ก็ในที่นี้ พระเถระกล่าวว่า อุปาทานขันธ์ ๕