Book,Page,LineNumber,Text 13,0506,001,ประดิษฐานอยู่ในที่เช่นสีหบัญชรด้านเหนือ ภายในแห่งราชธานี ปรากฏเหมือน 13,0506,002,ให้มหาชนสะดวกแก่การบูชา ด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้นฉะนั้น. ก็เมื่อ 13,0506,003,จักรรัตนะนั้นตั้งอยู่อย่างนี้แล้ว ก็จะมีพระราชาพระองค์ผู้ประสงค์จะทอดพระ- 13,0506,004,เนตรดูจักรรัตนะซึ่งมีกลุ่มแสงทำให้ภายในปราสาทสว่างไสวด้วยแสงรัตนะหลาก 13,0506,005,สี ซึ่งพุ่งออกมาทางช่องบานหน้าต่าง. แม้ปริชนผู้มากับพระราชานั้น ก็ปรารภ 13,0506,006,ถึงคำน่ารักแห่งจักรรัตนะนั้น จึงประกาศเนื้อความนั้น. 13,0506,007,ลำดับนั้น พระราชาทรงมีพระสรีระ ผุดผ่องด้วยพระปีติ และ 13,0506,008,ปราโมทย์เป็นกำลัง ทรงเลิกสมาธิเสด็จลุกขึ้นจากพระราชอาสน์ เสด็จไปใกล้ 13,0506,009,สีหบัญชร ทรงเห็นจักรรัตนะนั้น ทรงพระดำริว่า ก็จักรรัตนะนั้น เราได้ฟัง 13,0506,010,แล้ว ดังนี้เป็นต้น. จักรรัตนะนั้นทั้งหมดได้เป็นอย่างนั้น แก่พระเจ้ามหา- 13,0506,011,สุทัสสนจักรพรรดิราช. ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า รญฺโ มหา 13,0506,012,สุทสฺสนสฺส ฯเปฯ อสฺสํ นุโข อหํ ราชา จกฺกวตฺติ. ในบทนั้นมีอรรถ 13,0506,013,ว่า พระราชาพระองค์นั้น เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ. ถามว่า เป็นพระเจ้า 13,0506,014,จักรพรรดิ ด้วยเหตุมีประมาณเท่าใด. 13,0506,015,พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นจักรรัตนะพุ่งขึ้นไปสู่อากาศ แม้เพียงหนึ่ง 13,0506,016,องคุลีสององคุลี ทรงแสดงกิจจะพึงกระทำ เพื่อยังจักรรัตนะนั้นเป็นไป ณ 13,0506,017,บัดนี้ จึงตรัสว่า อถโข อานนฺท เป็นต้น. 13,0506,018,ในบทเหล่านั้น บทว่า อุฏฺ€ายาสนา ความว่า เสด็จลุกจากพระราช- 13,0506,019,อาสนะที่ประทับแล้ว เสด็จมาใกล้จักรรัตนะ. บทว่า สุวณฺณภิงฺคารํ คเหตฺวา 13,0506,020,ความว่า ทรงยกพระสุวรรณภิงคารมีทะนานเช่นงวงช้าง. 13,0506,021,บทว่า อนฺวเทว ราชา มหาสุทสฺสโน สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย 13,0506,022,ความว่า ก็พระเจ้ามหาสุทัสสนจักรพรรดิราช นั้น ทรงพระนามว่า จักรพรรดิ 13,0506,023,ชั่วกาลใกล้เคียงกับจักรรัตนะพุ่งขึ้นเวหาใกล้เคียงกับพระเจ้าพรรดิทั้งหลาย