Book,Page,LineNumber,Text 13,0382,001,ดำริว่า จักปรินิพพานที่ไหนหนอ. คิดอยู่ร่ำไปว่า ท่านราหุลปรินิพพานในดาว 13,0382,002,ดึงส์ ท่านพระอัญญาโกญฑัญญะ ในสระฉัททันต์ เราเล่าจะปรินิพพาน ณ 13,0382,003,ที่ไหน. ก็เกิดสติปรารภมารดาขึ้นว่า มารดาของเราแม้เป็นมารดาของพระ 13,0382,004,อรหันต์ ๗ รูป ก็ไม่เลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ มารดานั้น 13,0382,005,มีอุปนิสัยหรือไม่หนอ ระลึกได้แล้วก็เห็นอุปนิสัยแห่งโสดาปัตติมรรค พิจารณา 13,0382,006,ว่ามารดาจักบรรลุด้วยเทศนาของใคร ก็รู้ว่าจักบรรลุด้วยเทศนาของเรา ไม่ใช่ 13,0382,007,ของผู้อื่น ก็ถ้าหากว่าเราพึงเป็นผู้ขวนขวายน้อยเสียไซร้ คนทั้งหลายก็จักว่า 13,0382,008,กล่าวเราเอาได้ว่า พระสารีบุตรเป็นที่พึ่งได้แม้แก่ชนอื่น ๆ จริงอย่างนั้น ในวัน 13,0382,009,เทศนาสมจิตตสูตรของท่าน เทวดาแสนโกฏิก็บรรลุพระอรหัต เทวดาที่บรรลุ 13,0382,010,มรรค ๓ นับไม่ถ้วน และในที่อื่นปรากฏว่ามีการบรรลุกันมากมาย อนึ่งเล่า 13,0382,011,"เพราะทำจิตให้เลื่อมใสในพระเถระ ตระกูลถึง ๘๐,๐๐๐ ตระกูล บังเกิดใน" 13,0382,012,สวรรค์ บัดนี้ พระเถระไม่อาจเพื่อกำจัดแม้เพียงความเห็นผิดของมารดาได้ 13,0382,013,เพราะฉะนั้น จึงตกลงใจว่า เราจักเปลื้องมารดาออกจากมิจฉาทิฏฐิ แล้วจัก 13,0382,014,ปรินิพพานในห้องน้อยที่เกิด ดำริต่อไปว่า เราจักทูลลาพระผู้มีพระภาคไปใน 13,0382,015,วันนี้นี่แหละ จึงเรียกพระจุนทะเถระมาว่า มาไปกันเถิดท่านจุนทะ ท่านจงบอก 13,0382,016,ภิกษุบริษัท ๕๐๐ รูปของเราว่า อาวุโส ท่านจงถือบาตรและจีวร พระธรรม 13,0382,017,เสนาบดี ประสงค์จะไปนาลกคาม. พระเถระได้ทำอย่างนั้น. ภิกษุเก็บเสนา- 13,0382,018,สนะถือบาตรจีวรมายังสำนักพระเถระ. 13,0382,019,พระเถระก็เก็บเสนาสนะ. ปัดกวาดที่พักกลางวัน ยืนอยู่ที่ประตูมองดู 13,0382,020,ที่พักกลางวัน ดำริว่า บัดนี้ นี้เป็นการเห็นครั้งสุดท้าย ไม่มีการกลับมา ผู้อัน 13,0382,021,ภิกษุ ๕๐๐ รูป แวดล้อมแล้ว จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมแล้ว 13,0382,022,กราบทูลเป็นคำร้อยกรองกะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า