Book,Page,LineNumber,Text
13,0126,001,บทว่า สพฺพกาเมหิ นี้ ท่านกล่าวเหมือนว่าพระราชาพันธุมให้พวก
13,0126,002,พราหมณ์ดูลักษณะแล้วเลี้ยงดูในภายหลัง. แต่ไม่ควรเห็นอย่างนั้น. พึงทราบ
13,0126,003,ว่าพระราชาพันธุมโปรดเลี้ยงดูพวกพราหมณ์พยากรณ์ จนอิ่มหนำก่อนแล้วจึง
13,0126,004,ให้ตรวจลักษณะภายหลัง. ความพิสดารของเรื่องนั้นท่านกล่าวไว้แล้วในการก้าว
13,0126,005,ลงสู่พระครรภ์. บทว่า ปาเยนฺติ คือให้ดื่มน้ำนม. ได้ยินว่า พระราชาพันธุม
13,0126,006,โปรดให้นางนม ๖๐ นาง ปรุงน้ำนมมีรสหวานปราศจากโทษบำรุงพระโพธิสัตว์.
13,0126,007,แม้นางนมที่เหลือล้วนเป็นผู้ฉลาดในการงานนั้น ๆ ก็แผนกละหกสิบเหมือนกัน.
13,0126,008,โปรดให้ชาย ๖๐ คน ทำหน้าที่รับใช้นางนมเหล่านั้น. โปรดให้ตั้งอมาตย์
13,0126,009,๖๐ คน คอยดูการกระทำและไม่กระทำของชายนั้น ๆ. ด้วยประการฉะนี้
13,0126,010,ได้มีแก่อุปฐาก ๓๖๐ คน คือของหญิง ๒๔๐ คน ของชาย ๑๒๐ คน.
13,0126,011,บทว่า เสตจฺฉตฺตํ คือ ทิพยเศวตฉัตร. ก็ทิพยเศวตฉัตรเป็นของที่ตระกูลให้
13,0126,012,ตั้งอยู่ในห้องสิรินั้นแล. พึงทราบความว่า อย่าครอบงำเลย ในบทเป็นต้นว่า
13,0126,013,มา นํ สีตํ วา ดังนี้.
13,0126,014,บทว่า สฺวาสฺสุสุทํ ตัดบทเป็น โส อสฺสุ สุทํ บทว่า องฺเกเนว
13,0126,015,องฺกํ ความว่า พระกุมารนั้นอันบุคคลผลัดเปลี่ยนกันอุ้มผลัดเปลี่ยนกันแบก.
13,0126,016,บทว่า ปริหริยติ ความว่า นำไป คือ อุ้มไป.
13,0126,017,บทว่า มญฺชุสฺสโร คือพระกุมารมีพระสุรเสียงไม่กระด้าง. บทว่า
13,0126,018,วคฺคุสฺสโร คือพระกุมารมีพระสุรเสียงเต็มไปด้วยความฉลาด. บทว่า มธุรสฺ-
13,0126,019,สโร คือพระกุมารมีพระสุรเสียงน่าพอใจ. บทว่า เปมนียสฺสโร คือพระกุมาร
13,0126,020,มีพระสุรเสียงทำให้เกิดความรัก. ข้อนี้เป็นอธิบายในบทนั้น เพราะนกการเวก
13,0126,021,มีเสียงเพราะ ได้ยินมาว่า เมื่อนกการเวกจิกมะม่วงสุกมีรสอร่อยด้วยจะงอยปาก
13,0126,022,แล้วดื่มรสที่ไหลออกมาแล้วกระพือปีกร้อง บรรดาสัตว์ ๔ เท้า เริ่มเยื้องย่าง
13,0126,023,เหมือนเมา. บรรดาสัตว์ ๔ เท้า แม้กำลังหาอาหารก็ทิ้งหญ้าที่เข้าไปในปากฟัง