Book,Page,LineNumber,Text 39,0316,001,ก็ไม่ใช่ความว่า คจฺฉนฺเตสุ คำนั้น ไม่พึงถือเอาแต่แง่เดียว เหมือนอย่าง 39,0316,002,ว่าในคำว่า อริยา นยฺยานิกา นี้ มีความว่า นิยฺยนฺตา ไม่ใช่มีความว่า 39,0316,003,นิยฺยาตพฺพา ฉันใด แม้ในที่นี้ ก็มีความว่า คจฺฉนฺเตสุ ไม่ใช่มีความว่า 39,0316,004,คนฺตพฺเพสุ ฉันนั้น. 39,0316,005,อีกอย่างหนึ่ง เพราะเหตุที่ผู้นี้ ประสงค์จะให้แก่ใคร ๆ ในเวลาจะตาย 39,0316,006,ก็จับต้องโภคะให้ไม่ได้ ฉะนั้น โภคะเหล่านั้น อันเขาจำต้องละไปทางกายก่อน 39,0316,007,ภายหลัง จึงจำต้องจากไปทางใจที่หมดหวัง ท่านอธิบายว่า. พึงล่วงเลยไป 39,0316,008,เพราะฉะนั้น จึงควรเห็นความในข้อนี้อย่างนี้ว่า บรรดาโภคะทั้งหลายที่จำต้อง 39,0316,009,ละไปทางกายก่อน ภายหลัง จึงต้องละไปทางใจ. ในความข้อต้น สัตตมี- 39,0316,010,วิภัตติ ลงในนิทธารณะว่า บรรดาโภคะทั้งหลายที่จำต้องละไป เขาก็นำโภคะ 39,0316,011,คือบุญนิธินั้นอย่างเดียวเท่านั้น ออกจากโภคะทั้งหลาย พาไป. ในความข้อ 39,0316,012,หลัง สัตตมีวิภัตติ ลงในภาวลักขณะ โดยภาวะว่า ก็โดยภาวะที่โภคะทั้งหลาย 39,0316,013,ติดตามไป ก็ย่อมกำหนดภาวะคือขุมทรัพย์นั้นพาไปด้วยได้. 39,0316,014,

พรรณนาคาถาที่ ๙

39,0316,015,พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้น ทรงแสดงความต่างของบุญนิธินี้ จากขุม- 39,0316,016,ทรัพย์ที่เขาฝังไว้ในที่ลึก มีน้ำเป็นที่สุด เมื่อทรงยังอุตสาหะให้เกิดแก่เทดา 39,0316,017,และมนุษย์ทั้งหลายในบุญนิธินั้น ด้วยการพรรณนาคุณบุญนิธิที่ทรงแสดงด้วย 39,0316,018,พระองค์อีก เหมือนพ่อค้าผู้ค้าสินค้าอันโอฬาร ยังอุตสาหะให้เกิดแก่คนซื้อ 39,0316,019,ด้วยการพรรณนาคุณสินค้าของตนฉะนั้น จึงตรัสว่า 39,0316,020,บุญนิธิคือขุมทรัพย์ ไม่สาธารณะแก่ชนเหล่าอื่น 39,0316,021,โจรก็ลักไปไม่ได้ บุญนิธิอันใด ติดตามตนไปได้ 39,0316,022,ปราชญ์พึงทำบุญนิธิอันนั้น.