Book,Page,LineNumber,Text 13,0411,001,พระสงฆ์ด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ กองบุญใหญ่ก็จักมีแก่บุตรเจ้ามัลละนั้น 13,0411,002,เพราะฉะนั้น จึงโปรดให้ถวายพระเถระผืนหนึ่ง. ฝ่ายพระเถระจึงได้รับเพราะ 13,0411,003,เหตุนั้นเหมือนกัน. บทว่า ธมฺมิยา กถาย ได้แก่กถากล่าวอนุโมทนาวัตถุทาน 13,0411,004,บทว่า ภควโต กายํ อุปนามิตํ ได้แก่คล้องไว้โดยทำนองนุ่งห่ม. 13,0411,005,แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนุ่งผืนหนึ่ง ห่มผืนหนึ่งจากคู้ผ้านั้น. บทว่า หตจฺจิกํ 13,0411,006,วิย ความว่า ถ่านเพลิงที่ปราศจากเปลว ย่อมโชติช่วงข้างใน ๆ เท่านั้น แต่ 13,0411,007,แสงแห่งถ่านเพลิงนั้นไม่มีข้างนอกฉันใด คู่ผ้าก็ฉันนั้นเหมือนกัน ปรากฏว่า 13,0411,008,ขาดแสงภายนอก. 13,0411,009,ถามว่า ในคำว่า อิเมสุ โข อานนฺท ทฺวีสุ กาเลสุ เหตุไร 13,0411,010,กายของพระตถาคตจึงบริสุทธิ์อย่างยิ่งอย่างนี้ในกาลทั้ง ๒ นี้. ตอบว่า เพราะ 13,0411,011,ความวิเศษแห่งอาหารอย่างหนึ่ง เพราะโสมนัสมีกำลังอย่างหนึ่ง. ในกาลทั้ง ๒ 13,0411,012,นี้ เหล่าเทวดาในสากลจักรวาล ใส่โอชะลงในอาหาร. ก็โภชนะนั้นตกถึงท้อง 13,0411,013,ก็ก่อปสันนรูป. อินทรีย์ที่มีใจเป็นที่ ๖ ก็รุ่งเรืองยิ่งนัก เพราะมีรูปที่มีอาหาร 13,0411,014,เป็นสมุฏฐานสดใส. ในวันที่พระองค์ตรัสรู้ ทรงระลึกว่า กองกิเลสที่เราสั่ง 13,0411,015,สมมาหลายแสนโกฏิกัป วันนี้เราละได้แล้วหนอ จึงเกิดโสมนัสมีกำลังขึ้น. 13,0411,016,จิตก็ใส. เมื่อจิตใส โลหิตก็ใส. เมื่อโลหิตใส อินทรีย์มีใจเป็นที่ ๖ ก็รุ่งเรือง 13,0411,017,อย่างยิ่ง. ในวันปรินิพพาน ทรงรำลึกว่า วันนี้เดี๋ยวนี้ เราจะเข้าไปสู่นคร 13,0411,018,อมตมหาปรินิพพาน ที่พระพุทธเจ้าหลายแสนพระองค์เข้าไปแล้ว ดังนี้ จึง 13,0411,019,เกิดโสมนัสมีกำลังขึ้น. จิตก็ใส เมื่อจิตใส โลหิตก็ใส เมื่อโลหิตใส อินทรีย์ 13,0411,020,มีใจเป็นที่ ๖ ก็รุ่งเรืองอย่างยิ่ง. พึงทราบว่า พระวรกายของพระตถาคต 13,0411,021,บริสุทธิ์อย่างยิ่ง มีในกาลทั้ง ๒ นี้ ด้วยอาหารและโสมนัสมีกำลังด้วยประการ 13,0411,022,ฉะนี้.