Book,Page,LineNumber,Text 13,0227,001,ฝ่ายวิวัฏฏะ ไม่กำหนดกาลทั้งปวงก็ไม่เกิดในโลกที่ว่างพระพุทธเจ้าแสนกัปบ้าง 13,0227,002,"หนึ่งอสงไขยบ้าง เมื่อพระพุทธเจ้าทรงอุบัติในระหว่าง ๑๖,๐๐๐ กัปนั้นแล" 13,0227,003,จึงเกิดย่อมเป็นเช่นเดียวกับที่ตั้งค่ายของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ยังธรรมจักรให้ 13,0227,004,เป็นไปแล้ว เพราะฉะนั้น เทพสุทธาวาสจึงไม่รวมเข้ากับวิญญาณฐิติ ไม่รวม 13,0227,005,เข้ากับสัตตาวาส. แต่พระมหาสิวเถระกล่าวว่า แม้เทพสุทธาวาสก็ยังรวมเข้ากับ 13,0227,006,วิญญาณฐิติที่ ๔ สัตตาวาสที่ ๔ นั้นแล ด้วยพระสูตรนี้ว่า ข้าแต่พระสารีบุตร 13,0227,007,สัตตาวาสที่กระผมไม่เคยอยู่ด้วยกาลยาวนานนี้เว้นเทพสุทธาวาส ไม่เป็นสิ่งที่ 13,0227,008,หาได้ง่ายดังนี้. เห็นด้วยกับพระสูตรนั้น เพราะพระสูตรท่านไม่ห้ามไว้. 13,0227,009,ความแห่งบทเป็นอาทิว่า สพฺพโส รูปสญฺาณํ ท่านกล่าวไว้แล้ว 13,0227,010,ในวิสุทธิมรรค. ก็เนวสัญญานาสัญญายตนะ มีวิญญาณก็ไม่ใช่ ไม่มีวิญญาณ 13,0227,011,ก็ไม่ใช่ เพราะแม้วิญญาณละเอียดเหมือนความละเอียดของสัญญา เพราะฉะนั้น 13,0227,012,ท่านจึงไม่กล่าวในวิญญาณฐิติแล้วกล่าวไว้ใน อายตนะ. 13,0227,013,บทว่า ตตฺร คือในวิญญาณฐิติเหล่านั้น. บทว่า ตญฺจ ปชานาติ 13,0227,014,คือย่อมรู้วิญญาณฐิตินั้น. บทว่า ตสฺสา จ สมุทยํ ความว่า ย่อมรู้ความเกิด 13,0227,015,ขึ้นแห่งวิญญาณฐิตินั้นโดยนัยเป็นอาทิว่า เพราะอวิชชาเกิดรูปจึงเกิดดังนี้. 13,0227,016,บทว่า ตสฺสา จ อตฺถงฺคมํ ความว่า ย่อมรู้ความดับแห่งวิญญาณฐิตินั้นโดย 13,0227,017,นัยเป็นอาทิว่า เพราะอวิชชาดับรูปจึงดับดังนี้. บทว่า อสฺสาทํ ความว่า 13,0227,018,ย่อมรู้ความพอใจของวิญญาณฐิตินั้นอย่างนี้ว่า ความสุข ความโสมนัสย่อมเกิด 13,0227,019,ขึ้นเพราะอาศัย รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณใด นี้คือความพอใจแห่ง 13,0227,020,วิญญาณ. บทว่า อาทีนวํ ความว่า ย่อมรู้โทษแห่งวิญญาณฐิตินั้นอย่างนี้ว่า 13,0227,021,รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวน 13,0227,022,ไปเป็นธรรมดานี้ คือโทษแห่งวิญญาณ. บทว่า นิสฺสรณํ ความว่า การนำ 13,0227,023,ออกซึ่งฉันทราคะการละฉันทราคะ ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณใด