Book,Page,LineNumber,Text 13,0213,001,แห่งการยกขึ้นว่ารูปดังนี้. บทว่า ปฏิฆสมฺผสฺโส คือ การสัมผัสการทำรูป 13,0213,002,ขันธ์อันเป็นไปกับด้วยความกระทบให้เป็นวัตถุแล้วเกิดขึ้น แม้ในบทนี้พระเถระ 13,0213,003,เมื่อไม่รับการเกิดขึ้นแห่งสัมผัสนั้นจากนามกาย ดุจเมื่อไม่มีต้นชมพูก็ไม่รับการ 13,0213,004,เกิดขึ้นแห่งผลชมพุสุก จากต้นมะม่วง ฉะนั้น จึงกราบทูลว่า โน เหตํ ภนฺเต 13,0213,005,ดังนี้. 13,0213,006,ในปัญหาที่ ๓ ท่านกล่าวไว้เหมือนปัญหาทั้งสองนั่นแล ในปัญหาที่ 13,0213,007,๓ นั้น พระเถระเมื่อจะไม่รับความเกิดขึ้นแห่งผัสสะแม้ทั้งสอง ในความไม่มี 13,0213,008,แห่งนามรูป ดุจไม่รับการเกิดขึ้นของผลมะม่วงสุก และผลชมพูสุกบนอากาศ 13,0213,009,ฉะนั้น จึงกราบทูลว่า โน เหตํ ภนฺเต ดังนี้ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงปัจจัย 13,0213,010,แต่ละอย่าง ๆ แห่งผัสสะทั้งสองอย่างนี้ บัดนี้ เพื่อทรงแสดงความที่ผัสสะแม้ 13,0213,011,ทั้งสองเหล่านั้น เป็นปัจจัยแห่งนามรูปโดยไม่ต่างกัน จึงทรงปรารภปัญหาที่ ๔ 13,0213,012,ว่า เยหิ อานนฺท อากาเรหิ (ดูก่อนอานนท์ด้วยอาการเหล่าใด) ดังนี้. 13,0213,013,บทว่า ยทิทํ นามรูปํ คือ นามรูปนี้ใด อธิบายว่า นามรูปในทวาร 13,0213,014,แม้ทั้ง ๖ นี้ใด นี้แล เป็นเหตุ นี้แล เป็นปัจจัย ดังนี้ จริงอยู่ จักษุเป็นต้น 13,0213,015,และรูปารมณ์เป็นต้น ในจักขุทวารเป็นต้น เป็นรูป ธรรมที่ประกอบกันเป็น 13,0213,016,นาม ผัสสะนั้นแม้ ๕ อย่าง อย่างนี้ด้วยประการดังนี้ เพราะนามรูปเป็นปัจจัย 13,0213,017,จึงมีผัสสะ แม้ในมโนทวาร หทยวัตถุและรูปย่อมเป็นอารมณ์เป็นรูป สัมป- 13,0213,018,ยุตธรรม และสิ่งไม่มีรูปย่อมเป็นอารมณ์เป็นนาม ด้วยประการฉะนี้อย่างนี้ 13,0213,019,แม้มโนสัมผัสก็พึงทราบว่า เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดสัมผัส ก็แต่ว่า 13,0213,020,นามรูปโดยมากย่อมเป็นปัจจัยแห่งผัสสะนั้น. 13,0213,021,บทว่า น โอกฺกมิสฺสถ ความว่า วิญญาณจักไม่เป็นไปด้วยสามารถ 13,0213,022,แห่งปฏิสนธิ ดุจเข้าไปแล้วเป็นไปอยู่. บทว่า สมุจฺฉิสฺสถ ความว่า เมื่อ 13,0213,023,ปฏิสนธิวิญญาณไม่มี นามรูปส่วนที่เหลือบริสุทธิ์เป็นนามรูปที่ตัดขาดเจือปน