tripitaka-mbu / 39 /390351.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
39,0351,001,ควรจะตรัสว่า <B>สมฺมทญฺาย วิมุตฺตา</B> แต่ก็ตรัสเสียว่า สมฺมทญฺญา
39,0351,002,วิมุตฺตา และเหมือนเมื่อควรจะตรัสว่า <B>อนุปุพฺพสิกฺขาย อนุปุพฺพกิริยาย
39,0351,003,อนุปุพฺพปฏิปทาย</B> แต่ก็ตรัสเสียว่า <B>อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา
39,0351,004,อนุปุพฺพปฏิปทา อญฺาราธนา</B> ฉะนั้น. บทว่า <B>นาญฺมญฺสฺส
39,0351,005,ทุกฺขมิจฺเฉยฺย</B> ความว่า ไม่พึงปรารถนาทุกข์แก่กันและกัน. ท่านอธิบายไว้
39,0351,006,อย่างไร. ท่านอธิบายไว้ว่ามิใช่เจริญเมตตา โดยมนสิการเป็นต้นว่า ขอสัตว์
39,0351,007,ทั้งหลายจงมีสุข มีความเกษมเถิดดังนี้อย่างเดียว ที่แท้พึงมนสิการอย่างนี้ว่า
39,0351,008,โอหนอ บุคคลอื่นไม่ว่าใคร ๆ ไม่พึงข่มเหงบุคคลอื่นไม่ว่าใคร ๆ ด้วย
39,0351,009,กิริยาคตโกงมีล่อลวงเป็นต้น ไม่พึงดูหมิ่นบุคคลอื่นไม่ว่าใคร ๆ ไม่ว่าในประเทศ
39,0351,010,ไหน ๆ ด้วยวัตถุแห่งมานะ ๙ อย่าง มีชาติเป็นต้น และไม่พึงปรารถนาทุกข์
39,0351,011,แก่กันและกัน เพราะความกริ้วโกรธหรือเพราะความคุมแค้น ดังนี้อีกด้วย.
39,0351,012,<H1>พรรณนาคาถาที่ ๗</H1>
39,0351,013,พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงแสดงเมตตาภาวนา โดยอรรถด้วย
39,0351,014,ปรารถนาให้เขาออกไปจากสิ่งไม่เป็นประโยชน์และทุกข์อย่างนี้แล้ว บัดนี้ เมื่อ
39,0351,015,ทรงแสดงเมตตาภาวนานั้นนั่นแลด้วยอุปมา จึงตรัสว่า <B>มาตา ยถา นิยํ
39,0351,016,ปุตฺตํ</B> เป็นต้น.
39,0351,017,คาถานั้นมีความว่า มารดาพึงอนุรักษ์บุตรในตน คือบุตรที่เกิดใน
39,0351,018,ตน เกิดแต่อก พึงทะนุถนอมบุตรนั้นซึ่งมีคนเดียวเท่านั้นด้วยชีวิต คือยอม
39,0351,019,สละแม้ชีวิตของตนถนอมบุตรนั้น เพื่อห้ามกันทุกข์มาถึงบุตรนั้น ฉันใดภิกษุ
39,0351,020,พึงทำมนัสที่ประกอบด้วยเมตตานี้ให้เจริญ คือให้เกิดบ่อย ๆ ให้ขยายไปและยัง
39,0351,021,เมตตาภาวนานั้นให้เจริญไม่มีประมาณ โดยถือสัตว์ไม่มีประมาณเป็นอารมณ์
39,0351,022,หรือโดยแผ่ไปไม่เหลือเลย แม้แต่ในสัตว์ผู้หนึ่ง.