|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
13,0514,001,หัตถีรัตนะนั่นแหละ. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายถึงอัสสรัตนะอย่างนั้น จึง
|
|
13,0514,002,ตรัสว่า <B>ปุน จปรํ</B> ดังนี้เป็นต้น.
|
|
13,0514,003,ก็มณีรัตนะจากวิบุลบรรพตยาวสี่ศอก มีรูปทรงงดงาม ประดับประดา
|
|
13,0514,004,ด้วยทองและปทุมทั้งสอง มีกลีบเป็นมุกดา อันบริสุทธิ์เปล่งออกจากสองก้อน
|
|
13,0514,005,ในที่สุดสองข้างมีมณีแปดหมื่นสี่พันเป็นบริวาร ราวจะแผ่ไปกระทบศิริแห่ง
|
|
13,0514,006,พระจันทร์เพ็ญ ที่หมู่ดาวล้อมรอบ มาแก่พระเจ้าจักรพรรดิ ผู้มีอัสสรัตนะ
|
|
13,0514,007,ปรากฏแล้วอย่างนี้. เมื่อมณีรัตนะนั้นมาแล้วอย่างนี้ อันบุคคลวางไว้ในข่าย
|
|
13,0514,008,มุกดา ยกขึ้นสู่อากาศประมาณหกสิบศอก เพียงยอดไม้ไผ่ แสงสว่างจะแผ่ไป
|
|
13,0514,009,สู่โอกาส ประมาณหนึ่งโยชน์โดยรอบ อันเป็นเหตุให้โอกาสนั้นทั้งหมด เกิด
|
|
13,0514,010,แสงสว่างเหมือนในเวลาอรุณขึ้นฉะนั้น. แต่นั้น ชาวนาก็ประกอบกสิกรรม
|
|
13,0514,011,พ่อค้าก็ประกอบการซื้อขาย ศีลปินนั้น ๆ ก็ประกอบการงานนั้นๆ สำคัญว่าเป็น
|
|
13,0514,012,กลางวัน. มณีรัตนะนั้นทั้งหมดได้มีแล้วอย่างนั้น แม้แก่พระเจ้ามหาสุทัสสน
|
|
13,0514,013,จักรพรรดินั่นเทียว. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า <B>ปุน จปรํ
|
|
13,0514,014,อานนฺท ฯเปฯ มณิรตนํ ปาตุรโหสิ</B> ดังนี้.
|
|
13,0514,015,อิตถีรัตนะมีการณ์พิเศษปรากฏแก่พระเจ้าจักพรรดิผู้ทรงมีสุขวิสัยพิเศษ
|
|
13,0514,016,มีมณีรัตนะปรากฏแล้วอย่างนี้. ก็พระญาติทั้งหลาย ย่อมนำอิตถีรัตนะนั้นจาก
|
|
13,0514,017,มัทรราชตระกูลมาเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดินั้น. หรือมาจากอุตตร-
|
|
13,0514,018,กุรุประเทศด้วยบุญญานุภาพ. ก็สมบัติแห่งอิตถีรัตนะนั้น ที่เหลือมาแล้วใน
|
|
13,0514,019,บาลีนั่นเทียว โดยนัยมีอาทิว่า ดูกรพระอานนท์ อีกประการหนึ่ง อิตถีรัตนะซึ่ง
|
|
13,0514,020,มีรูปสุดสวย น่าดู. ปรากฏแล้วแก่พระเจ้ามหาสุทัสสนจักรพรรดิราช. ใน
|
|
13,0514,021,บรรดาสมบัตินั้น ชื่อว่า อภิรูปา เพราะอิตถีรัตนะนั้น มีรูปสวยงาม บริบูรณ์
|
|
13,0514,022,ด้วยทรวดทรง. และ ชื่อว่า ทัสสนียา เพราะเมื่อดูก็ถูกตา แม้ต้องเลิกธุรกิจ
|
|
13,0514,023,อย่างอื่น มองดู. ชื่อว่า ปาสาทิกา เพราะเมื่อดูก็ยังให้เลื่อมใสด้วยอำนาจ
|
|
|