tripitaka-mbu / 13 /130463.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0463,001,ดั่งทองคำ พากันรำพันว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าสัพพัญญู แต่ก่อนข้า
13,0463,002,พระองค์ทั้งหลาย ได้เห็นพระสรีระของพระองค์มีวรรณะดังทองคำ ประดับ
13,0463,003,ด้วยพระมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ จิตด้วยพระพุทธรัศมีมีวรรณะ ๖
13,0463,004,ประการ งามรุ่งเรืองด้วยพระอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ แต่บัดนี้ ก็เหลือแต่
13,0463,005,พระบรมธาตุ มีวรรณะดั่งทองคำ ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า การณ์นี้ไม่สมควร
13,0463,006,แก่พระองค์เลย. สมัยนั้น แม้โทณพราหมณ์รู้ว่าเจ้าเหล่านั้นเผลอก็ฉวยพระ-
13,0463,007,เขี้ยวแก้วเบื้องขวา เก็บไว้ในระหว่างผ้าโพก. ต่อมาภายหลังจึงแบ่งเป็น ๘ ส่วน
13,0463,008,เท่า ๆ กัน พระบรมธาตุทั้งหมด รวมได้ ๑๖ ทะนาน โดยทะนานตามปกติ
13,0463,009,เจ้านครแต่ละพระองค์ได้ไปองค์ละ ๒ ทะนานพอดี.
13,0463,010,ส่วนเมื่อโทณพราหมณ์กำลังแบ่งพระบรมธาตุอยู่นั้นแล. ท้าวสักกะ
13,0463,011,จอมเทพสำรวจดูว่า ใครหนอฉกเอาพระเขี้ยวแก้วเบื้องขวาของพระผู้มีพระภาค-
13,0463,012,เจ้า ซึ่งเป็นปัจจัยแห่งการตรัสเรื่องสัจจะ เพื่อทรงประสงค์ตัดความสงสัย
13,0463,013,ของโลกพร้อมทั้งเทวโลกไป ก็ทรงเห็นว่า พราหมณ์ฉกเอาไป. ทรงดำริว่า
13,0463,014,แม้พราหมณ์ก็ไม่อาจทำสักการะอันควรแก่พระเขี้ยวแก้วได้ จำเราจะถือเอา
13,0463,015,พระเขี้ยวแก้วนั้นไปเสีย แล้วทรงถือเอาจากระหว่างผ้าโพก บรรจุไว้ในผอบ
13,0463,016,ทองคำ นำไปยังเทวโลกประดิษฐานไว้ ณ พระจุฬามณีเจดีย์. ฝ่ายพราหมณ์
13,0463,017,ครั้นแบ่งพระบรมธาตุแล้ว ไม่เห็นพระเขี้ยวแก้ว แต่เพราะตนฉกเอาโดยกิริยา
13,0463,018,ของขะโมย จึงไม่อาจแม้แต่จะถามว่า ใครฉกเอาพระเขี้ยวแก้วของเราไป.
13,0463,019,เห็นแต่การยกโทษลงในตนเองว่า เจ้าเท่านั้นแบ่งพระบรมธาตุมิใช่หรือ ทำไม
13,0463,020,เจ้าไม่รู้ว่า พระบรมธาตุของตนมีอยู่ก่อนเล่า. ลำดับนั้น พราหมณ์คิดว่า
13,0463,021,ทะนานทองคำนี้ ก็มีคติดังพระบรมธาตุ เราจักทำทะนานทองคำที่ตวงพระบรม-
13,0463,022,ธาตุของพระตถาคตเป็นสถูป แล้วจึงทูลว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลายโปรดประทาน
13,0463,023,ทะนานลูกนี้แก่ข้าพระเจ้าเถิด. แม้เหล่าเจ้าโมริยะ เมืองปิปผลิวัน ก็ส่งทูตไป
13,0463,024,ตระเตรียมการรบ ยกออกไปเหมือนพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นต้น.