tripitaka-mbu / 13 /130448.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0448,001,ให้เย็นแล้วนั่งลง. แม้เหล่าภิกษุบริวารของท่าน ก็นั่ง ณ โคนไม้ ใช้โยนิ
13,0448,002,โสมนสิการทำกัมมัฏฐาน นั่งสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย. ดังนั้น ท่านจึงไม่
13,0448,003,กล่าวว่าพักกลางวัน. เพราะนั่งเพื่อต้องการบรรเทาความเมื่อยล้า.
13,0448,004,บทว่า <B>มนฺทารวปุปฺผํ คเหตฺวา</B> ได้แก่ เอาไม้เสียบดอกมณฑารพ
13,0448,005,ขนาดถาดใหญ่ถือมาดังร่ม. บทว่า <B>อทฺทสา โข</B> ได้แก่ เห็นอาชีวกเดินมา
13,0448,006,แต่ไกล. ก็แลครั้นเห็นแล้ว พระเถระคิดว่า นั่นดอกมณฑารพปรากฏอยู่ในมือ
13,0448,007,ของอาชีวกนี่ ก็ดอกมณฑารพนั้น ไม่ปรากฏในถิ่นมนุษย์เสมอ ๆ จะมีก็ต่อเมื่อ
13,0448,008,ผู้มีฤทธิ์บางท่านแผลงฤทธิ์ และต่อเมื่อพระสัพพัญญูโพธิสัตว์เสด็จลงสู่พระครรภ์
13,0448,009,ของพระมารดาเป็นต้น แต่วันนี้ ผู้มีฤทธิ์ไร ๆ ก็ไม่ได้แสดงฤทธิ์นี่ พระศาสดา
13,0448,010,ของเราก็ไม่เสด็จลงสู่พระครรภ์ของพระมารดา ไม่ได้เสด็จออกจากพระครรภ์
13,0448,011,ทั้งวันนี้พระองค์ก็มิได้ตรัสรู้ ไม่ได้ประกาศพระธรรมจักร ไม่ได้แสดงยมก
13,0448,012,ปาฏิหาริย์ ไม่ได้เสด็จลงจากเทวโลก ไม่ได้ทรงปลงอายุสังขาร แต่พระศาสดา
13,0448,013,ของเราทรงพระชรา จักเสด็จปรินิพพานเสียเป็นแน่แล้ว. ลำดับนั้น พระเถระ
13,0448,014,เกิดจิตคิดว่า จักถามเขา จึงดำริว่า ก็ถ้าเรานั่งถาม ก็จักเป็นการกระทำความ
13,0448,015,ไม่เคารพในพระศาสดา ดังนี้แล้วจึงลุกขึ้น ห่มบังสุกุลจีวรสีเมฆที่พระทศพล
13,0448,016,ประทาน ประหนึ่งพญาช้างฉัททันต์ หลีกออกจากที่ยืน คลุมหนังแก้วมณี
13,0448,017,ฉะนั้น ยกอัญชลีอันรุ่งเรืองด้วยทศนัขสโมทานไว้เหนือเกล้า ผินหน้าตรงต่อ
13,0448,018,อาชีวกด้วยคารวะที่ทำในพระศาสดา กล่าวถามว่า ผู้มีอายุ ท่านทราบข่าวพระ
13,0448,019,ศาสดาของเราบ้างไหม.
13,0448,020,ถามว่า ก็ท่านพระมหากัสสปะ รู้การปริพพานของพระศาสดา หรือ
13,0448,021,ไม่รู้จึงถาม. อาจารย์พวกหนึ่งกล่าวว่า การรู้ของพระขีณาสพทั้งหลาย ต้องเนื่อง
13,0448,022,ด้วยอาวัชชนะ ความนึก ก็ท่านพระมหากัสสปะนี้ไม่รู้ จึงถาม เพราะท่าน
13,0448,023,ไม่ได้นึกไว้. พระเถระมากด้วยสมาบัติ ยังชีวิตให้เป็นไปด้วยการมากไปด้วย