tripitaka-mbu / 13 /130447.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0447,001,ที่ ๓ แห่ง คือ ที่เรือนของสตรีทั้งสองนั้น (นางวิสาขา และนางมัลลิกา) และ
13,0447,002,เรือนของโจรชื่อว่า เทวนานิยะ. ก็นางมัลลิกานั้น กล่าวว่า เมื่อพระสรีระของ
13,0447,003,พระศาสดามาถึงประตูแล้ว พ่อทั้งหลาย จงวางพระสรีระของพระศาสดา
13,0447,004,ลงแล้ว สวมเครื่องประดับนี้ที่พระสรีระของพระศาสดา. เครื่องประดับ
13,0447,005,นั้น สวมตั้งแต่พระเศียรจนจรดพื้นพระบาท พระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า
13,0447,006,ซึ่งมีพระฉวีวรรณเหมือนทองคำ ประดับด้วยมหาลดาประสาธน์ ที่ทำด้วยรัตนะ
13,0447,007,๗ ประการ ก็รุ่งเรืองยิ่งนัก. นางมัลลิกานั้นเห็นดังนั้นแล้ว ก็มีจิตผ่องใส
13,0447,008,ทำความปรารถนาว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระองค์ จักโลดแล่นอยู่ใน
13,0447,009,วัฏฏสงสารตราบใด ตราบนั้น กิจด้วยเครื่องประดับ จงอย่าแยกจากข้าพระ-
13,0447,010,องค์ ขอสรีระจงเป็นเช่นเดียวกับเครื่องประดับที่สวมใส่อยู่เป็นนิตย์เถิด. ครั้งนั้น
13,0447,011,พวกเจ้ามัลลปาโมกข์ ยกพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยเครื่องมหาลดาประ-
13,0447,012,สาธน์ ที่ทำด้วยรัตนะ ๗ ประการ ออกทางประตูทิศบูรพา วางพระสรีระของ
13,0447,013,พระผู้มีพระภาคเจ้าลง ณ มกุฏพันธนะเจดีย์ของพวกเจ้ามัลละทางเบื้องทิศบูรพา
13,0447,014,แห่งพระนคร.
13,0447,015,บทว่า <B>ปาวาย กุสินารํ</B> ความว่า ท่านพระมหากัสสปะ เดินทางไกล
13,0447,016,ด้วยหมายใจว่า จักเที่ยวไปบิณฑบาตในนครปาวาแล้วจักไปยังนครกุสินารา.
13,0447,017,ในคำว่า นั่ง ณ โคนไม้นี้ เหตุไร ท่านจึงไม่กล่าวว่าพักกลางวัน. เพราะท่าน
13,0447,018,ไม่นั่งเพื่อต้องการจะพักกลางวัน. ความจริง เหล่าภิกษุบริวารของพระเถระ
13,0447,019,ล้วนแต่จำเริญสุข มีบุญมาก ท่านเดินทางด้วยเท้าบนแผ่นดินที่เสมือนแผ่นหิน
13,0447,020,อันร้อนในเวลาเที่ยง พากันลำบาก. พระเถระเห็นภิกษุเหล่านั้น ก็คิดว่า
13,0447,021,ภิกษุทั้งหลายพากันลำบาก ทั้งสถานที่ ๆ จะไปก็ยังอยู่ไกล จักพักเสียเล็กน้อย
13,0447,022,ระงับความลำบาก ตอนเย็น ถึงนครกุสินาราจักเข้าเฝ้าพระทศพล จึงแวะลง
13,0447,023,จากทาง ปูสังฆาฏิที่โคนไม้แห่งหนึ่ง แล้วเอาน้ำจากคณโฑน้ำลูบมือและเท้า