tripitaka-mbu / 13 /130427.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0427,001,พระพุทธเจ้าเป็นต้น ผู้สมบูรณ์ด้วยวัตร. บทว่า <B>ทสฺสนียานิ</B> ได้แก่ ควรจะ
13,0427,002,เห็น คือ ควรไปเพื่อจะเห็น. บทว่า <B>สํเวชนียานิ</B> ได้แก่ ให้เกิดสลดใจ. บทว่า
13,0427,003,<B>€านานิ</B> ได้แก่เหตุหรือถิ่นสถาน. คำว่า <B>เย หิ เกจิ</B> นี้ ท่านกล่าวเพื่อแสดง
13,0427,004,ถึงการจาริกไปในเจดีย์มีประโยชน์. บรรดาบทเหล่านั้นด้วยบทว่า <B>เจติยจาริกํ
13,0427,005,อาหิณฺฑนฺตา</B> ท่านแสดงว่าก่อนอื่นภิกษุเหล่าใด กวาดลานพระเจดีย์ในที่นั้นๆ
13,0427,006,ชำระอาสนะ รดน้ำที่ต้นโพธิ์แล้วเที่ยวไป ในภิกษุเหล่านั้นไม่จำต้องกล่าวถึง
13,0427,007,เลย. เหล่าภิกษุที่ออกไปจากวัดด้วยคิดว่า จักไปไหว้พระเจดีย์ในวัดโน้น มีจิต
13,0427,008,เลื่อมใส แม้กระทำกาละในระหว่างๆก็จักบังเกิดในสวรรค์โดยไม่มีอันตรายเลย.
13,0427,009,ด้วยบทว่า <B>อทสฺสนํ อานนฺท</B> ทรงแสดงว่า การไม่เห็นมาตุคามเสีย
13,0427,010,ได้เลย เป็นข้อปฏิบัติธรรมอันสมควรในข้อนี้ จริงอยู่ ภิกษุเปิดประตูนั่งบน
13,0427,011,เสนาสนะ ตราบใดที่ไม่เห็นมาตุคามที่มายืนอยู่ที่ประตู ตราบนั้น ภิกษุนั้น
13,0427,012,ย่อมไม่เกิดโลภ จิตไม่หวั่นไหวโดยส่วนเดียวเท่านั้น. แต่เมื่อยังเห็นอยู่แม้ทั้ง
13,0427,013,๒ อย่างนั้นก็พึงมี. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า <B>อทสฺสนํ
13,0427,014,อานนฺท</B> ด้วยบทว่า <B>ทสฺสเน ปน ภควา สติ กถํ</B> พระอานนท์ทูลถามว่า
13,0427,015,เมื่อการเห็นในที่ ๆ ภิกษุเข้าไปรับภิกษาเป็นต้น ภิกษุจะพึงปฏิบัติอย่างไร.
13,0427,016,ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า บุรุษผู้ยืนถือมีดด้วยกล่าวว่า ถ้าท่านพูดกับ
13,0427,017,เรา ๆ จะตัดศีรษะท่านเสียในที่นี้แหละ หรือนางยักษิณียืนพูดว่า ถ้าท่านพูด
13,0427,018,กับเรา ๆ จะแล่เนื้อท่านเคี้ยวกินเสียในที่นี้ นี่แหละยังจะดีกว่า เพราะความ
13,0427,019,พินาศเหตุมีข้อนั้นเป็นปัจจัย ย่อมมีได้อัตตภาพเดียวเท่านั้น ไม่ต้องเสวยทุกข์
13,0427,020,ที่กำหนดไม่ได้ในอบายทั้งหลาย ส่วนเมื่อมีการเจรจาปราศรัยกับมาตุคามอยู่
13,0427,021,ความคุ้นก็มี เมื่อมีความคุ้น ช่องทางก็มี ภิกษุผู้มีจิตถูกราคะครอบงำก็ถึงความ
13,0427,022,พินาศแห่งศีล ต้องไปเต็มอยู่ในอบาย เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึง
13,0427,023,ตรัสว่า อนาลาโป ดังนี้. สมจริงดังคำที่ท่านกล่าวไว้ว่า