tripitaka-mbu / 13 /130420.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0420,001,ระหว่างสาละคู่ มีพระสติสัมปชัญญะ จักปรินิพพานเวลาจวนรุ่ง แต่แว่วเสียง
13,0420,002,ถามว่า พวกท่านร้อยมาลัยเพื่อใคร กล่าวว่า นี่อะไรกันหนอ วันนี้นี่เอง พระ-
13,0420,003,มหาบุรุษทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระมารดา วันนี้ก็ออกจากพระครรภ์
13,0420,004,ของมารดา วันนี้ก็เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ วันนี้ก็เป็นพระพุทธเจ้า วันนี้ก็
13,0420,005,ประกาศพระธรรมจักร วันนี้ก็แสดงยมกปาฏิหาริย์ วันนี้ก็เสด็จลงจากเทวโลก
13,0420,006,วันนี้ก็ทรงปลงอายุสังขาร ทราบว่า วันนี้ก็จักเสด็จปรินิพพาน พระองค์พึงทรง
13,0420,007,ดำรงอยู่ชั่วดื่มยาคู ในวันที่ ๒ หรือไม่หนอ ข้อนี้ไม่สมควรแก่พระองค์ ผู้ทรง
13,0420,008,บำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัศ แล้วบรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า จำเราจักถือเอาพวง
13,0420,009,มาลัยที่ยังไม่เสร็จมา เมื่อไม่ได้โอกาสภายในจักรวาล ก็จักคล้องที่ขอบปาก
13,0420,010,จักรวาลวิ่งแล่นไปตามขอบปากจักรวาล เอาหัตถ์เกี่ยวหัตถ์เรียงศอสลอน ขับ
13,0420,011,กล่อมปรารภพระรัตนตรัย ปรารภมหาปุริสลักษณะ ๓๒ พระฉัพพัณรังสี
13,0420,012,ทสบารมี ชาดก ๕๕๐ พระพุทธญาณ ๑๔ ในที่สุดแห่งพระพุทธคุณนั้น ๆ ก็
13,0420,013,ต้องละไป ๆ. ท่านอาศัยสังคีตะนั้น จึงกล่าวคำนี้ว่า <B>ทิพฺพานิปิ สงฺคีตานิ
13,0420,014,อนฺตลิกฺเข วชฺชนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย</B> ทั้งสังคีตที่เป็นทิพย์ ก็บรรเลง
13,0420,015,ในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต ดังนี้.
13,0420,016,ก็แล พระผู้มีพระภาคเจ้า บรรทมตะแคงข้างขวา ระหว่างต้นสาละคู่
13,0420,017,ทรงเห็นความอุตสาหะอย่างใหญ่ ของบริษัทที่ประชุมกันตั้งแต่ปฐพีจดขอบปาก
13,0420,018,จักรวาล และตั้งแต่ขอบปากจักรวาลจดพรหมโลก จึงตรัสบอกท่านพระอานนท์.
13,0420,019,ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า <B>อถโข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ฯเปฯ
13,0420,020,ตถาคคสฺส ปูชาย.</B> ครั้นทรงแสดงมหาสักการะอย่างนี้แล้ว เมื่อจะทรงแสดง
13,0420,021,ความที่พระองค์เป็นผู้อันบริษัทไม่สักการะด้วยมหาสักการะแม้นั้น จึงตรัสว่า
13,0420,022,<B>น โข อานนฺท เอตฺตาวตา</B> เป็นต้น.