|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
13,0354,001,พึงทราบวินิจฉัยในสัตตกะที่ ๒ ดังต่อไปนี้. ภิกษุชื่อว่ากัมมารามะ
|
|
13,0354,002,เพราะมีการงานเป็นที่ยินดี. ชื่อว่า กัมมรตะ เพราะยินดีในการงาน. บทว่า
|
|
13,0354,003,<B>กมฺมารามตํ อนุยุตฺตา</B> ความว่า ประกอบแล้ว ประกอบทั่วแล้ว ประกอบตาม
|
|
13,0354,004,แล้ว. ในบทเหล่านั้นงานที่จะพึงทำเรียกว่ากรรม. คืออะไรบ้าง. คือ เช่น
|
|
13,0354,005,จัดจีวร กระทำจีวร ช่วยเขาทำวัตถุมีกล่องเข็ม ถลกบาตร สายโยคประคด
|
|
13,0354,006,เอว เชิงรองบาตร เขียงเท้า และไม้กวาดเป็นต้น. จริงอยู่ ภิกษุบางรูปเมื่อ
|
|
13,0354,007,กระทำกิจเหล่านั้น ย่อมกระทำกันทั้งวันทีเดียว. ท่านหมายเอาข้อนั้นจึงห้ามไว้
|
|
13,0354,008,ดังนี้. ส่วนภิกษุใดกระทำกิจเหล่านั้น ในเวลาทำกิจเหล่านั้นเท่านั้น ในเวลา
|
|
13,0354,009,อุเทศก็เรียนอุเทศ ในเวลาสาธยาย ก็สาธยาย เวลากวาดลานพระเจดีย์ก็ทำวัตร
|
|
13,0354,010,ที่ลานพระเจดีย์ ในเวลามนสิการ ก็ทำมนสิการ ภิกษุนั้นไม่ชื่อว่ามีการงาน
|
|
13,0354,011,เป็นที่ยินดี.
|
|
13,0354,012,พึงทราบวินิจฉัย ในคำว่า <B>น ภสฺสารามา</B> นี้ดังต่อไปนี้ ภิกษุใด
|
|
13,0354,013,เมื่อกระทำการเจรจาปราศัย ด้วยเรื่องเพศหญิงเพศชายเป็นต้น หมดเวลาไป
|
|
13,0354,014,ทั้งกลางวันและกลางคืน คุยเช่นนี้ไม่จบ ภิกษุนี้ชื่อว่า มีการคุยเป็นที่มายินดี.
|
|
13,0354,015,ส่วนภิกษุใด พูดธรรม แก้ปัญหา ชื่อว่า ไม่มีการคุยเป็นที่มายินดี ภิกษุนี้ชื่อว่า
|
|
13,0354,016,คุยน้อยคุยจบทีเดียว. เพราะเหตุไร เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่าภิกษุ
|
|
13,0354,017,ทั้งหลาย พวกเธอผู้ประชุมกันมีกรณียะ ๒ อย่าง คือ พูดธรรม หรือนิ่งอย่าง
|
|
13,0354,018,อริยะ.
|
|
13,0354,019,พึงทราบวินิจฉัยในคำว่า <B>น นิทฺทารามา</B> นี้ดังต่อไปนี้ ภิกษุใดเดิน
|
|
13,0354,020,ก็ดี นั่งก็ดี นอนก็ดี ถูกถิ่นมิทธะครอบงำแล้วก็หลับได้ทั้งนั้น ภิกษุนี้ชื่อว่า
|
|
13,0354,021,มีการหลับเป็นที่มายินดีส่วนภิกษุใดมีจิตหยั่งลงในภวังค์ เพราะความเจ็บป่วย
|
|
13,0354,022,ทางกรัชกาย เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ดูก่อนอัคคิเวสสนะ
|
|
|