tripitaka-mbu / 13 /130349.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0349,001,ศาสนาให้เสื่อมถอย. แต่เพราะประชุมกันเนือง ๆ ภิกษุทั้งหลายย่อมได้ยินเรื่อง
13,0349,002,นั้น ๆ. แต่นั้นก็ส่งภิกษุสงฆ์ ไปกระทำสีมาให้ตรง ทำอุโบสถและปวารณา
13,0349,003,เป็นต้น ให้เป็นไป. ส่งภิกษุผู้นับเนื่องในอริยวงศ์ไปในที่ ๆ เหล่าภิกษุมิจฉาชีพ
13,0349,004,หนาแน่น ให้กล่าวอริยวงศ์ ให้เหล่าพระวินัยธร กระทำนิคคหะภิกษุชั่ว
13,0349,005,ทั้งหลาย แม้ภิกษุชั่วทั้งหลายรู้ว่าสงฆ์ไม่เผลอ พวกเราไม่อาจรวมเป็นหมู่เป็น
13,0349,006,กลุ่มกันได้ ก็แตกหนีไป. พึงทราบความเสื่อมและความเจริญ ในข้อนี้ด้วย
13,0349,007,ประการฉะนี้.
13,0349,008,พึงทราบวินิจฉัยในคำว่า <B>สมคฺคา</B> เป็นต้นดังต่อไปนี้ เมื่อเขาตีกลอง
13,0349,009,หรือเคาะระฆังประกาศว่า สงฆ์จงประชุมกัน เพราะประสงค์จะแจ้ง วัตตกติกา
13,0349,010,เพราะประสงค์จะให้โอวาท เพื่อปฏิบัติพระเจดีย์ ปฏิบัติลานโพธิ์ หรือ เพื่อ
13,0349,011,มุงโรงอุโบสถ กระทำการหลีกเลี่ยงว่า ผมมีกิจด้วยจีวร ผมสุมบาตร ผมมี
13,0349,012,การก่อสร้าง ชื่อว่าไม่พร้อมเพรียงกันกระทำ. ส่วนภิกษุทั้งหลายเว้นกิจการนั้น
13,0349,013,ทั้งหมด ประชุมกันโดยการป่าวร้องครั้งเดียวเท่านั้นด้วยความสนใจว่า ผมก่อน
13,0349,014,ผมก่อน ชื่อว่าพร้อมเพรียงกันประชุม. อนึ่งประชุมกันแล้ว คิดปรึกษากัน
13,0349,015,กระทำกิจที่ควรทำไม่เลิกพร้อมกัน ไม่ชื่อว่าพร้อมเพรียงกันเลิก. ก็บรรดาภิกษุ
13,0349,016,ทั้งหลายผู้เลิกกันแล้วอย่างนี้ พวกภิกษุที่ไปก่อนคิดอย่างนี้ว่า พวกเราฟังแต่
13,0349,017,เรื่องนอกเรื่อง บัดนี้จักพูดกันแต่ข้อที่ยุตติ. แต่เมื่อเลิกโดยพร้อมเพรียงกัน
13,0349,018,ก็ชื่อว่าพร้อมเพรียงกันเลิก อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายสดับว่า สีมาของวิหารในที่ชื่อ
13,0349,019,โน้นวุ่นวายอุโบสถ และปวารณาก็งด ภิกษุชั่ว ผู้กระทำอเนสนกรรมมีเวชชกรรม
13,0349,020,เป็นต้น ในที่ชื่อโน้นมีหนาแน่น เมื่อภิกษุเหล่านั้น กล่าวว่า ใครจะไปทำการ
13,0349,021,นิคคหะภิกษุเหล่านั้น จึงพูดรับอาสาว่า ผมก่อน ผมก่อน แล้วก็ไปชื่อว่าพร้อม
13,0349,022,เพรียงกันเลิก. ก็ภิกษุทั้งหลายพบภิกษุอาคันตุกะ ไม่พูดอะไรว่า จงไปบริเวณนี้
13,0349,023,จงไปบริเวณนั้นทั้งหมดแม้กระทำวัตรอยู่ก็ดี พบภิกษุผู้มีบาตรจีวรเก่าแสวงหา