tripitaka-mbu / 13 /130221.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0221,001,ตรัสหัวข้ออวิชชาอย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ที่สุดของอวิชชาไม่ปรากฏมา
13,0221,002,ก่อน ก่อนจากนี้อวิชชามิได้มี แต่ว่าได้เกิดมีแล้วในภายหลัง เพราะเหตุนั้น
13,0221,003,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตกล่าวถึงหัวข้ออวิชชานี้อย่างนี้ ครั้นแล้วอวิชชา
13,0221,004,ย่อมปรากฏ เพราะสิ่งนี้เป็นปัจจัย จึงมีอวิชชา. ตรัสหัวข้อตัณหาอย่างนี้ว่า
13,0221,005,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ที่สุดของภวตัณหาย่อมไม่ปรากฏมาก่อน ก่อนจากนี้
13,0221,006,ภวตัณหามิได้มี แต่ว่าได้เกิดมีแล้วในภายหลัง เพราะเหตุนั้น ดูก่อนภิกษุ
13,0221,007,ทั้งหลาย ตถาคตกล่าวถึงหัวข้อตัณหานี้ไว้อย่างนี้ ครั้นแล้วตัณหาย่อมปรากฏ
13,0221,008,เพราะสิ่งนี้เป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ตรัสหัวข้อทิฐิไว้อย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุ
13,0221,009,ทั้งหลาย ที่สุดแห่งภวทิฐิไม่ปรากฏมาก่อน ก่อนจากนี้ภวทิฐิมิได้มี แต่ว่าได้เกิด
13,0221,010,มีแล้วในภายหลัง เพราะเหตุนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลายตถาคต กล่าวถึงภวทิฐินี้
13,0221,011,อย่างนี้ ครั้นแล้ว ภวทิฐิย่อมปรากฏ เพราะสิ่งนี้เป็นปัจจัย จึงมีภวทิฐิ ดังนี้
13,0221,012,แม้ในภวทิฐินี้ก็เป็นอันตรัสด้วยหัวข้อทิฐิเหมือนกัน จริงอยู่ ผู้มีทิฐิถือว่าเวทนา
13,0221,013,มีสุขเวทนาเป็นต้น เป็นอัตตา ครั้นจุติจากภพนั้น ๆ ในภพ กำเนิด คติ
13,0221,014,วิญญาณัฎฐิติ และสัตตาวาสทั้งปวง ด้วยสามารถการยึดถือว่าเรา ว่าของเรา
13,0221,015,แล้วไปเกิดในภพนั้นๆ ย่อมหมุนไปสู่ภูมิเนืองๆ ดุจเรือถูกลมซัดในมหาสมุทร
13,0221,016,ไม่สามารถยกศีรษะขึ้นจากวัฏฏะได้เลย.
13,0221,017,ด้วยประการฉะนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงวัฏฏะด้วยกถามรรคเพียง
13,0221,018,เท่านี้แก่ผู้มีทิฐิหลงในปัจจยาการแล้ว บัดนี้ เมื่อจะตรัสถึงพระนิพพาน จึงตรัส
13,0221,019,คำมีอาทิว่า <B>ยโต โข อานนฺท ภิกฺขุ</B> ดังนี้.
13,0221,020,ก็และพระผู้มีพระภาคเจ้า เพราะพระองค์เป็นผู้ฉลาดในเทศนา ไม่ทรง
13,0221,021,แตะต้องวิวัฏฏกถา (เรื่องนิพพาน) กะบุคคลผู้ฟุ้งซ่านด้วยสามารถนวกรรม
13,0221,022,เป็นต้น ผู้ทอดทิ้งกรรมฐาน แล้วเมื่อจะทรงปรารภด้วยสามารถบุคคลผู้มี