|
Book,Page,LineNumber,Text
|
|
13,0156,001,บทว่า <B>สมฺปหํเสติ</B> คือให้รื่นเริงด้วยคุณที่ตนได้แล้ว. อธิบายว่า ทรง
|
|
13,0156,002,กล่าวทำให้มีอานิสงส์มาก.
|
|
13,0156,003,บทว่า <B>สํขารานํ อาทีนวํ</B> ความว่า ตรัสถึงโทษของกามทั้งหลายเพื่อ
|
|
13,0156,004,บรรลุปฐมมรรคขึ้นต่ำ. แต่ในบทนี้เพื่อบรรลุมรรคเบื้องสูงพระองค์จึงทรง
|
|
13,0156,005,ประกาศโทษของสังขารทั้งหลาย และความที่สังขารทั้งหลายลามกและความ
|
|
13,0156,006,ลำบากอันมีสังขารเป็นปัจจัยโดยนัยเป็นต้นว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขาร
|
|
13,0156,007,ทั้งหลาย ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่ปลอดโปร่ง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อันนี้เพียงพอ
|
|
13,0156,008,เพื่อความเบื่อหน่ายในสังขารทั้งหลาย เพียงพอเพื่อคลายกำหนัด เพียงพอเพื่อ
|
|
13,0156,009,ความหลุดพ้นดังนี้. ทรงประกาศอานิสงส์ในนิพพานโดยนัยเป็นต้นว่า ดูก่อน
|
|
13,0156,010,ภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่านิพพานนี้มีอยู่ในเนกขัมมะเหมือนกัน เป็นสิ่งประณีต
|
|
13,0156,011,เป็นเครื่องป้องกัน เป็นที่อาศัยดังนี้.
|
|
13,0156,012,บทว่า <B>มหาชนกาโย</B> ความว่า หมู่มหาชนผู้เป็นอุปฐากของกุมาร
|
|
13,0156,013,ทั้งสองนั้นนั่นแล. บทว่า ข้าพเจ้าทั้งหลายขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้าและพระ-
|
|
13,0156,014,ธรรมเป็นที่พึ่งดังนี้ ความว่า หมู่ชนเหล่านั้นได้กล่าววาจาสองหน [คือกล่าว
|
|
13,0156,015,ถึงพระพุทธเจ้าหนหนึ่งพระธรรมหนหนึ่ง] เป็นสรณะ เพราะยังไม่ครบพระ-
|
|
13,0156,016,สงฆ์. บทว่า <B>อลตฺถุํ</B> คือ ได้แล้วโดยความเป็นเอหิภิกขุ โดยนัยที่กล่าวแล้ว
|
|
13,0156,017,ในตอนก่อน. แม้ในคราวที่บวชแล้วในลำดับจากนี้ก็มีนัยนี้แล.
|
|
13,0156,018,บทว่า <B>ปริวิตกฺโก อุทปาทิ</B> ความว่า ความปริวิตกเกิดขึ้นเมื่อไร.
|
|
13,0156,019,เกิดขึ้นเมื่อล่วง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน จากการตรัสรู้.
|
|
13,0156,020,ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำการสงเคราะห์พระชนกอยู่
|
|
13,0156,021,แล้ว. แม้พระราชาก็ทรงดำริว่า โอรสคนโตของเราออกบวชเป็นพระพุทธเจ้า
|
|
13,0156,022,แล้ว โอรสคนที่สองของเราออกบวชเป็นอัครสาวก บุตรปุโรหิตเป็นสาวกรูปที่
|
|
13,0156,023,สอง อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายที่เหลือเหล่านี้แม้ในเวลาเป็นคฤหัสถ์ก็ได้แวดล้อมโอรส
|
|
|