tripitaka-mbu / 13 /130150.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0150,001,พรหมครั้นทราบดังนั้นแล้ว เกิดโสมนัส ได้กราบทูลพระผู้มีพระ-
13,0150,002,ภาคเจ้าด้วยคาถาหลายคาถา.
13,0150,003,พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า <B>อถโข โส ภิกฺขเว มหาพฺรหฺมา</B>
13,0150,004,เป็นต้น ทรงหมายถึงข้อนี้. ในบทเหล่านั้น บทว่า <B>อชฺฌภาสิ</B> ตัดบทเป็น<B>อธิ
13,0150,005,อภาสิ.</B> อธิบายว่า ได้กราบทูลปรารภยิ่งในรูป.
13,0150,006,บทว่า <B>เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏ€ิโต</B> คือเหมือนคนยืนอยู่บน
13,0150,007,ภูเขาหินล้วน. จริงอยู่ เมื่อคนยืนอยู่บนยอดภูเขานั้นก็ไม่มีกิจเป็นต้นว่า ยก และ
13,0150,008,ยึดคอ แม้เพื่อจะดู. บทว่า <B>ตถูปมํ</B> ความว่า เปรียบด้วยสิ่งนั้น คือ เปรียบ
13,0150,009,ด้วยภูเขาหินล้วน. ก็ความสังเขปในเรื่องนี้มีดังนี้. บุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่บน
13,0150,010,ยอดเขาหินล้วนพึงเห็นหมู่ชนโดยรอบฉันใด ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์
13,0150,011,เป็นผู้มีปัญญาดี มีจักษุโดยรอบด้วยพระสัพพัญญุตญาณก็ฉันนั้น เสด็จขึ้นสู่
13,0150,012,ปราสาทสำเร็จด้วยธรรมสำเร็จด้วยปัญญา เป็นผู้ปราศจากความโศกด้วยพระองค์
13,0150,013,เอง ทรงพิจารณา ทรงใคร่ครวญ ทรงตรวจตรา หมู่ชนผู้เกลือกกลั้วไปด้วย
13,0150,014,ความโศก ถูกชาติชราครอบงำแล้ว.
13,0150,015,ในบทนี้มีอธิบายดังนี้ เหมือนอย่างว่า มนุษย์ทั้งหลาย กระทำที่ดิน
13,0150,016,ผืนใหญ่โดยรอบเชิงภูเขา แล้วปลูกกระท่อมในแนวพื้นที่เหมาะแก่การเพาะปลูก
13,0150,017,ณ ที่ดินผืนนั้น จุดไฟในเวลากลางคืน อนึ่ง ที่ดินนั้นพึงมีความมืดประกอบ
13,0150,018,ด้วยองค์ ๔ ขณะนั้น เมื่อบุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่บนยอดภูเขานั้น มองดูพื้นที่
13,0150,019,ที่ดิน ไม่ปรากฏ แนวพื้นที่เพาะปลูก ไม่ปรากฏ กระท่อม ไม่ปรากฏ
13,0150,020,พวกมนุษย์ที่นอนในกระท่อมนั้น ไม่ปรากฏ แต่ปรากฏเพียงเปลวไฟในกระท่อม
13,0150,021,ทั้งหลาย เท่านั้น ฉันใด เมื่อพระตถาคตเสด็จขึ้นสู่ธรรมปราสาททรงตรวจดู
13,0150,022,หมู่สัตว์ สัตว์ทั้งหลายที่ไม่ได้ทำความดี แม้นั่ง ณ ข้างพระชานุเบื้องขวา ใน
13,0150,023,ในที่อยู่แห่งเดียวกัน ก็ฉันนั้น ก็ไม่มาถึงคลองแห่งพุทธจักษุ ย่อมเป็นเหมือน