tripitaka-mbu / 13 /130138.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0138,001,ท่านกล่าวเพียงให้รู้ถึงความดับเท่านั้นว่า เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ ย่อมไม่มี ดังนี้.
13,0138,002,อีกอย่างหนึ่ง. ท่านกล่าวถึงวิปัสสนาแก่กล้าอันจะให้ถึงความพ้นไป.
13,0138,003,บทว่า <B>อปเรน สมเยน</B> ความว่า พระโพธิสัตว์ทรงรู้ปัจจัยและความ
13,0138,004,ดับแห่งปัจจัยอย่างนี้ในสมัยอื่นจากนั้น. บทว่า <B>อุปาทานกฺขนเธสุ</B> คือในขันธ์
13,0138,005,อันเป็นปัจจัยแห่งอุปาทาน. บทว่า <B>อุทยพฺพยานุปสฺสี</B> ความว่า พิจารณาเห็น
13,0138,006,ความเกิดและความเสื่อมที่เห็นแล้วครั้งแรกนั่นแหละ. บทว่า <B>วิหาสิ</B> ความว่า
13,0138,007,พระโพธิสัตว์ทรงเจริญวิปัสสนาอันเป็นเหตุให้ถึงความพ้นสุดยอดอยู่. ท่าน
13,0138,008,กล่าวข้อนี้ไว้เพราะเหตุไร. เพราะพระโพธิสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงทรงบำเพ็ญบารมี
13,0138,009,ในปัจฉิมภพเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ในวันพระโอรสประสูติทรงผนวชทรง
13,0138,010,ประกอบความเพียรเสด็จขึ้นโพธิบัลลังก์ทรงกำจัดมารและเสนามารในยามต้นทรง
13,0138,011,ระลึกถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยใจภพก่อน ในยามที่สองทรงชำระทิพยจักขุ ในยามที่
13,0138,012,สามทรงพิจารณาปัจจยาการ ทรงออกจากจตุตถฌานกำหนดลมหายใจเข้าออก
13,0138,013,ทรงเพ่งพินิจในขันธ์ ๕ ทรงเห็นลักษณะ ๕๐ ถ้วน ด้วยสามารถความเกิดและความ
13,0138,014,เสื่อมทรงเจริญวิปัสสนา จนกระทั่งถึงโคตรภูญาณแล้วทรงแทงตลอดพุทธคุณ
13,0138,015,ทั้งสิ้นด้วยอริยมรรค. อนึ่ง พระมหาบุรุษแม้พระองค์นี้ก็ได้บำเพ็ญบารมีแล้ว.
13,0138,016,พระองค์ทรงกระทำตามลำดับ ทั้งหมดดังที่กล่าวแล้วในปัจฉิมยาม ทรงออกจาก
13,0138,017,จตุตถฌานกำหนดลมหายใจเข้าออก ทรงเพ่งพินิจในขันธ์ ๕ ทรงปรารภการ
13,0138,018,เห็นแจ้งความเกิดและความเสื่อมมีประการดังที่กล่าวแล้ว. ท่านกล่าวถึงความ
13,0138,019,เห็นแจ้งอันจะให้ถึงความพ้นนี้ เพื่อแสดงถึงความเห็นแจ้งความเกิดและความ
13,0138,020,เสื่อมนั้น.
13,0138,021,ในบทเหล่านั้น บทว่า <B>อิติรูปํ</B> ความว่า รูปนี้ รูปมีประมาณเท่านี้
13,0138,022,รูปเบื้องบนจากนี้ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวถึงการกำหนดรูปอันไม่มี
13,0138,023,ส่วนเหลือด้วยสามารถแห่งลักษณะรสปัจจุปัฏฐานและปทัฏฐาน กระทำสภาวะ