tripitaka-mbu / 13 /130137.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0137,001,บทว่า <B>สมุทโย สมุทโยติ โข</B> ความว่า เกิดขึ้นเกิดขึ้นดังนี้แล. บทว่า
13,0137,002,<B>อนนุสฺสุเตสุ</B> ความว่า ไม่ได้สดับมาแล้วคือไม่เคยฟังมาแล้ว. ในบททั้งหลาย
13,0137,003,ว่า จักษุเกิดขึ้นแล้ว เป็นต้น ความว่า ก็ปัญญาเห็นความเกิดนี้ท่านกล่าวว่า
13,0137,004,เป็นจักษุ ด้วยอรรถว่าเห็น เป็นญาณด้วยอรรถว่าทำให้รู้ เป็นปัญญาด้วยอรรถ
13,0137,005,ว่ารู้ทั่ว เป็นวิชชาด้วยอรรถว่ารู้แจ้ง แทงตลอดเกิดขึ้นแล้ว เป็นอาโลกะ ด้วย
13,0137,006,อรรถว่าเป็นแสงสว่างดังนี้. เหมือนอย่างท่านกล่าวแล้วว่า จักษุเกิดขึ้นแล้ว
13,0137,007,โดยอรรถว่าเห็นญาณเกิดขึ้นแล้วโดยอรรถว่ารู้แล้ว ปัญญาเกิดขึ้นแล้วโดยอรรถ
13,0137,008,ว่ารู้ทั่ว วิชชาเกิดขึ้นแล้วโดยอรรถว่า แทงตลอด อาโลกะเกิดขึ้นแล้วโดยอรรถ
13,0137,009,ว่าแสงสว่าง จักษุเป็นเหตุ อรรถว่าเห็นเป็นผล ญาณเป็นเหตุ อรรถว่า รู้แล้ว
13,0137,010,เป็นผล ปัญญาเป็นเหตุ อรรถว่ารู้ชัดเป็นผล วิชชาเป็นเหตุ อรรถว่าแทง
13,0137,011,ตลอดเป็นผล อาโลกะเป็นเหตุ อรรถว่าแสงสว่างเป็นผลดังนี้. ท่านกล่าวด้วย
13,0137,012,บทเพียงเท่านี้หรือ. ท่านกล่าวเพียงให้กำหนดรู้ปัจจัยว่า เมื่อสิ่งนี้มีอยู่ สิ่งนี้ย่อม
13,0137,013,มีดังนี้. อีกอย่างหนึ่ง. ท่านกล่าวถึง ตรุณวิปัสสนา อันเป็นแนวทางปฏิบัติ.
13,0137,014,บทว่า <B>อธิคโต โข มยายํ</B> ความว่า มรรคนี้อันเราบรรลุแล้ว. บท
13,0137,015,ว่า <B>มคฺโค</B> คือ วิปัสสนามรรค. บทว่า <B>โพธาย</B> ความว่า เพื่อรู้อริยสัจ ๔ หรือ
13,0137,016,เพื่อรู้นิพพาน. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อ โพธิเพราะรู้. นี้เป็นชื่อของอริยมรรค.
13,0137,017,เป็นอันท่านกล่าวว่าเพื่อประโยชน์แก่อริยมรรคนั้นบ้าง. เพราะอริยมรรคมี
13,0137,018,วิปัสสามรรคเป็นมูล. บัดนี้เมื่อจะขยายความมรรคนั้นจึงกล่าวคำเป็นอาทิว่า
13,0137,019,<B>ยทิทํ นามรูปนิโรธา</B> ดังนี้. อนึ่งในบทนี้ท่านกล่าวถึงนิพพานเท่านั้นด้วยบท
13,0137,020,ปฐมาวิภัตติ์ว่า <B>วิญฺาณนิโรโธ</B> เป็นต้น ด้วยประการฉะนี้ พระมหาบุรุษ
13,0137,021,ได้ทรงเห็นการดับคือความไม่เกิดขึ้นแห่งวัฏฏทุกข์ทั้งมวล.
13,0137,022,บทว่า <B>นิโรโธ นิโรโธติ โข</B> ความว่า ไม่เกิด ไม่เกิดแล. บทว่า
13,0137,023,<B>จกฺขุํ</B> เป็นต้น มีความอันท่านกล่าวไว้แล้วนั่นแล. แต่ในที่นี้ ด้วยบททั้งหมดนี้