tripitaka-mbu / 13 /130128.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0128,001,บทว่า <B>กมฺมวิปากชํ</B> คือไม่สำเร็จด้วยภาวนา. ก็มังสจักขุได้เป็น
13,0128,002,เช่นกับจักษุของเทวดาทั้งหลายด้วยอำนาจผลของกรรม โดยที่แม้เมล็ดงาเมล็ด
13,0128,003,เดียวทำเครื่องหมายไว้แล้ว ใส่ลงไปในหม้องาก็สามารถยกขึ้นให้ได้ฉะนี้.
13,0128,004,ในบทว่า <B>วิปสฺสี</B> นี้ เป็นอรรถของคำพูด. ชื่อว่าวิปัสสีเพราะเห็น
13,0128,005,ชัดเจนโดยเว้นจากการหลับตา ความจำและความมืดและเห็นด้วยตาที่ลืม. ใน
13,0128,006,วาระที่สอง. ชื่อวิปัสสีเพราะเลือกดู. อธิบายว่าสอดส่องดู. บทว่า <B>อตฺเถปนายติ</B>
13,0128,007,ความว่า รู้เห็นแนะนำหรือพิจารณาอรรถคดี. ได้ยินว่า วันหนึ่ง เมื่อพระราชา
13,0128,008,ประทับนั่งบนศาลสำหรับวินิจฉัยทรงสอดส่องพิจารณาคดี แม่นมนำพระมหา-
13,0128,009,บุรุษซึ่งประดับตกแต่งพระองค์แล้วมาวางไว้บนพระหัตถ์ เมื่อพระราชานั้นทรง
13,0128,010,รับพระกุมารวางบนพระเพลาแล้วทรงกอดจูบ พวกผู้พิจารณาได้ตัดสินคนที่
13,0128,011,เป็นเจ้าของไม่ให้เป็นเจ้าของ พระโพธิสัตว์ทรงเปล่งพระสุรเสียงแสดงความไม่
13,0128,012,พอพระทัย. พระราชาตรัสว่า พวกเจ้าพิจารณาคดีนี้อย่างไร. พวกอำมาตย์
13,0128,013,มองดูไม่เห็นคนอื่นเพราะตนวินิจฉัยคดีผิด คิดว่า เราจักตัดสินอย่างนี้. พวก
13,0128,014,ผู้พิพากษาตัดสินผู้เป็นเจ้าของโดยแท้ให้เป็นเจ้าของใหม่แล้ว พิจารณาดูว่า
13,0128,015,พระกุมารทรงทราบหรือไม่หนอ จึงทรงกระทำอย่างนี้ ได้ตัดสินผู้เป็นเจ้าของ
13,0128,016,ไม่ให้เป็นเจ้าของอีก. พระโพธิสัตว์ทรงเปล่งพระสุรเสียงอย่างนั้นอีก. ทีนั้น
13,0128,017,พระราชาทรงดำริว่า พระกุมารผู้เป็นมหาบุรุษย่อมรู้ ตั้งแต่นั้นมามิได้ทรง
13,0128,018,ประมาทเลย. ท่านกล่าวว่าพระกุมารทรงสอดส่องพิจารณาคดี หมายถึงข้อนี้.
13,0128,019,ในบทว่า <B>วสฺสิกํ</B> เป็นต้น ความว่า สถานที่เพื่ออยู่อย่างมีความสุข
13,0128,020,ในฤดูฝน ชื่อว่า <B>วสฺสิก.</B> ปราสาทสำหรับประทับในฤดูฝนนอกนี้มีนัยนี้
13,0128,021,เหมือนกัน. ก็ข้อนี้ในบทนี้มีอรรถเป็นคำพูด. การอยู่ในฤดูฝนชื่อ วัสสะ
13,0128,022,ผู้สมควรซึ่งฤดูฝนนั้นชื่อ วัสสิกะ. แม้ในบทนอกนี้ก็มีนัยนี้แล. ในปราสาท ๓
13,0128,023,หลังนั้น ปราสาทที่ประทับให้ฤดูฝน ไม่สูงนัก ไม่ต่ำนัก แม้ประตูและ