tripitaka-mbu / 13 /130083.csv
uisp's picture
add data
3c90236
Book,Page,LineNumber,Text
13,0083,001,"เท่านั้นเพราะเหตุใด, พระสูตรนี้ท่านกล่าวไว้แล้วในภาคอื่น เพราะฉะนั้น ท่าน "
13,0083,002,จึงกล่าวว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย การประชุมสาวกของเราในบัดนี้ ให้มีหนเดียว
13,0083,003,ดังนั้นการประชุมจึงจบ.
13,0083,004,"ในบทว่า <B>อฑฺฒเตรสานิภิกฺขุสตานิ</B> ความว่า ภิกษุ ๑,๒๕๐ รูปคือ"
13,0083,005,"บุราณชฎิล ๑,๐๐๐ รูป ปริวารพระอัครสาวก ๒๕๐ รูป. ในบรรดาภิกษุเหล่านั้น"
13,0083,006,ควรกล่าวถึงเรื่องตั้งแต่อภินิหารของพระอัครสาวกทั้งสองแล้ว แสดงถึงการ
13,0083,007,บรรพชา. อนึ่ง บรรดาบรรพชิตเหล่านั้น พระมหาโมคคลัลานะบรรลุพระอรหัต
13,0083,008,ในวันที่เจ็ด. พระธรรมเสนาบดี เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเวทนา-
13,0083,009,ปริคคหสูตรอันเป็นธรรมยาคะที่เตรียมไว้ แก่ทีฆนขปริพาชก ผู้เป็นหลาน ณ
13,0083,010,ถ้ำสูกรขาตาท่ามกลางภูเขาคิชฌกูฏ ในวันที่ ๑๕ ส่งญาณไปเพื่อรู้ตามโดยระลึก
13,0083,011,ไปตามเทศนา ได้บรรลุสาวกบารมีญาณ.
13,0083,012,พระผู้มีพระเจ้าทรงทราบถึงการบรรลุพระอรหัตของพระเถระแล้ว เสด็จ
13,0083,013,ขึ้นไปยังเวหาสไปปรากฏ ณ พระวิหารเวฬุวัน. พระเถระรำพึงว่าพระผู้มีพระเจ้า
13,0083,014,เสด็จไปไหนหนอ ครั้นทราบความที่พระองค์ประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน
13,0083,015,แม้ท่านเองก็เหาะสู่เวหาสไปปรากฏ ณ พระวิหารเวฬุวันเหมือนกัน. ลำดับนั้น
13,0083,016,พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงประกาศปาติโมกข์ (หลักคำสอน) พระผู้มีพระภาคเจ้า
13,0083,017,"ทรงหมายถึงการประชุมนั้น จึงตรัสว่า ภิกษุ ๑,๒๕๐ รูปเป็นต้น. นี้คือกำหนด"
13,0083,018,การประชุมของพระสาวก.
13,0083,019,พึงทราบวินิจฉัย ในการกำหนดอุปฐากต่อไป. บทว่า พระอานนท์
13,0083,020,ท่านกล่าวหมายถึงความที่พระอานนทเถระ เป็นอุปฐากประจำ. เพราะว่า ใน
13,0083,021,ปฐมโพธิกาล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้มีพระอุปฐากไม่ประจำ. บางคราว พระนาค-
13,0083,022,สมาละถือบาตรและจีวรตามเสด็จ. บางคราวพระนาคิตะ. บางคราวพระอุปวาณะ.
13,0083,023,บางคราวพระสุนักขัตตะ. บางคราวจุนทสมณุเทส บางคราวพระสาคตะ บาง
13,0083,024,คราวพระเมฆิยะ.