File size: 4,728 Bytes
3c90236
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
Book,Page,LineNumber,Text
13,0379,001,เวทนาย่อมครอบงำร่างกายอีกเหมือนสาหร่ายที่ขาดเพราะไม้หรือกระเบื้องตกลง 
13,0379,002,ไปกลับคลุมน้ำตามเดิม.   อนึ่ง  สมาบัติของผู้กระทำหมวด ๗  แห่งรูปและหมวด 
13,0379,003,๗ แห่งอรูปให้หมดพุ่มหมดรกแล้วเข้าด้วยอำนาจแห่งมหาวิปัสสนา    ชื่อว่าย่อม
13,0379,004,ข่มได้ด้วยดี.     เปรียบเหมือนสาหร่ายที่บุรุษลงน้ำแล้วเอามือและเท้าแหวกให้ดี
13,0379,005,ต่อเวลานานจึงจะคลุมน้ำ    ฉันใด    ผู้ที่ออกจากผลสมาบัตินั้น    ต่อเวลานาน
13,0379,006,เวทนาจึงจะเกิดขึ้น  ฉันนั้น.  ดังนั้น   พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงเป็นเสมือนทรงตั้ง
13,0379,007,วิปัสสนาใหม่เอี่ยม  ณ  พระมหาโพธิบัลลังก์ในวันนั้น   ทรงจ่อมลงด้วยอาการ
13,0379,008,๑๔  กระทำหมวด ๗  แห่งรูป หมวด ๗  แห่งอรูป  ไม่ให้เป็นพุ่ม  ไม่ให้รก
13,0379,009,แล้วทรงไม่เสวยเวทนา     ด้วยมหาวิปัสสนา      เข้าสมาบัติด้วยทรงประสงค์ว่า
13,0379,010,ขอเวทนาอย่าเกิดตลอด  ๑๐ เดือน.     เวทนาที่ทรงข่มด้วยสมาบัติ      จึงไม่เกิด
13,0379,011,ตลอดเวลา  ๑๐  เดือนเลย.  เวทนาที่ทรงข่มด้วยสมาบัติ  จึงไม่เกิดตลอดเวลา.
13,0379,012,บทว่า  <B>คิลานา วุฏฺ€ิโต</B>  ได้แก่ประชวรแล้วหายอีก.  บทว่า  <B>มธุรก
13,0379,013,ชาโตวิย</B>   ได้แก่เหมือนุบุรุษนอนหงายบนหลาว  ที่เกิดภาวะเกร็งหนักและแข็ง.
13,0379,014,บทว่า   <B>น   ปกฺขายนฺติ</B>     ได้แก่ไม่แจ้ง    คือไม่ปรากฏโดยวาจาต่าง ๆ.   ด้วย
13,0379,015,บทว่า   <B>ธมฺมาปิ  นํ  นปฺปฏิภนฺติ</B>   ท่านแสดงว่าแม้ธรรม   คือ สติปัฏฐานไม่
13,0379,016,ปรากฏแก่เรา.     แต่ธรรมคือพระบาลี     พระเถระคล่องแคล่วดีแล้ว.     บทว่า
13,0379,017,<B>อุทาหรติ</B>   ได้แก่ไม่ประทานปัจฉิมโอวาท.   ท่านพระอานนท์หมายเอาปัจฉิม
13,0379,018,โอวาทนั้น.                         
13,0379,019,บทว่า  <B>อนนฺตรํ  อพาหรํ</B>  ความว่า  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงดำริว่า
13,0379,020,เราไม่กระทำ ๒ อย่าง  โดยธรรมหรือบุคคล  แล้วจักแสดงธรรมเท่านี้แก่บุคคล
13,0379,021,อื่นก็หาไม่   ชื่อว่าทรงกระทำธรรมให้เป็นภายใน.   ทรงพระดำริว่าเราจักแสดง
13,0379,022,ธรรมเท่านี้แก่บุคคลอื่น  ชื่อว่าทรงกระทำธรรมภายนอก.  อนึ่ง   ทรงพระดำริ
13,0379,023,ว่าเราจักแสดงแก่บุคคลนี้   ชื่อว่าทรงกระทำบุคคลภายใน.   เมื่อทรงพระดำริว่า